สถิติการเข้าดูหน้า Blog

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2559

อ่าน e-book ของถูกและของฟรีนั้นมีอยู่จริง

          หลังจากที่ผมซื้อ iPad มาได้ประมาณ 2 ปี น้อยครั้งมากที่ผมจะ Download e-book มาอ่าน  เพราะตอนที่ซื้อเจ้า iPad มาใหม่ๆนั้น การหา Application ดีๆ ซักอันมาเพื่อไว้ download หนังสือมาอ่านนั้น  หายากเหลือเกินและหลังจากลอง Download Application เหล่านี้มาหลายๆ ตัว  ก็พบว่ามันไม่เหมาะกับการอ่านเลยครับ  เริ่มจากการเลือกซื้อก็มีตัวอย่างมาให้ดูนิดเดียว  ไม่เหมือนกับการเลือกซื้อหนังสือตามร้านขายหนังสือทั่วไป  ที่เราสามารถเปิดดูได้ทุกหน้าก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อเล่มนี้ดีไหม?  หรือเรื่องของราคาที่หนังสือ e-book พวกนี้ก็ไม่ได้ต่างจากหนังสือจริงเป็นเล่มๆ ทั่วไปเลยและหลายๆ Application เป็นการ Download มาเก็บไว้ในโทรศัพท์หรือ iPad ทำให้สิ้นเปลืองหน่วยความจำเครื่องของเราอีก  และบางครั้งยังอ่านไม่จบหน่วยความจำเครื่องเต็มก็ต้องลบออกไปก่อน  จะลบก็ต้องมาเสียเวลาโหลดลงเครื่องใหม่อีก  สุดท้าย iPad ที่ซื้อมาก็เอาไว้เล่นเกมส์ อ่านข่าว แล้วก็ดูหุ้นซะมากกว่า  อุสาห์ว่าจะเอามาซื้อหนังสืออ่านซักหน่อย จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้โหลด e-book มาอ่านอย่างที่ตั้งใจไว้เสียที

วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี จํากัด (มหาชน) RP

          หลังจากพาเพื่อนๆ ไปดอยตัวแรกกับหุ้นตัวแรกนั้นก็คือหุ้น SITHAI กันมาบ้างแล้ว วันนี้ผมมีหุ้นตัวใหม่ที่จะพาเพื่อนๆ ดอยกันอีกรอบ เฮ้ยไม่ใช่.......ไปดูครับ ไปดู นั้นก็คือหุ้น บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือที่มีชื่อในย่อตลาดหลักทรัพย์ว่า RP แต่หลายคนที่ได้ยินชื่อหุ้นตัวนี้ต้องถึงกับร้องลั่นเลยทีเดียว เพราะจำได้ว่าวันที่เข้าตลาดวันแรกๆ หากผมจำไม่ผิดราคาไปถึง 18.4 บาท จากราคา IPO 12 บาทแล้วราคาก็ไหลลงมาเรื่อยๆ จนแตะที่เกือบ 6.30 บาท และตอนนี้ วันที่ 2 มิถุนายน 2559 ราคาปิดอยู่ที่ 9.15 บาท ซึ่งหากพูดถึงราคาที่กลับมาก็บวกกว่า 33% และมีปันผลติดไม้ติดมืออีกที่ 0.82 บาท/หุ้นหรือคิดเป็น 8.96% ผมไม่น่าใจว่าคนที่ถือตั้งแต่ IPO น่าจะมีขายไปบ้างแล้วหรือเปล่า?  ตอนช่วงราคาแพงๆ เตะ 18 บาท แต่หากซื้อราคานี้ก็ดูเป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย  หากคิดจะลงทุนว่าแต่ ....บริษัทนี้เขามีกิจการอะไรกันบ้างล่ะ? แล้วน่าสนใจหรือเปล่า? เรามาลองดูกันดีกว่าครับ แต่บทความนี้ผมขอนำเสนอในรูปแบบของกิจการกับการเงินนิดหน่อยนะครับ เพราะไม่เก่งเรื่องงบการเงินเหมือนกันครับ

วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สมัยนี้เรามีเครื่องแลกเหรียญกันแล้วหรือนี้ ?

เครื่องแลกเหรียญ
           ขอออกตัวก่อนนะว่าผมไม่ได้รับค่าจ้างหรือค่าตอบแทนใดๆ ในการเขียนบทความนี้  แต่เห็นเป็นไอเดียที่แปลกและน่าสนใจไม่น้อยครับ  จึงอยากลองเขียนบทความตอนนี้ดูครับ  นานมาแล้วสมัยที่ผมเริ่มมาเรียนในกรุงเทพฯ ใหม่ๆ  เครื่องหยอดเหรียญยอดนิยมสำหรับพวกนักศึกษาเลยนั้นก็คือ "เครื่องซักกผ้าหยอดเหรียญ" ผมว่าใครๆ ก็ต้องเคยใช้ครับ  ใครไม่เคยใช้นี้ถือว่าแปลก  เพราะคุณนั้นขยันเกินไปแล้วครับ แต่ไม่ใช่สำหรับผมแน่นอนมีขยันบ้างขี้เกียจบ้างครับ  โดยเฉพาะการซักผ้าเนี้ยขนาดทำงานแล้วยังตัดสินใจซื้อเครื่องซักผ้าก่อนตู้เย็นเสียอีกครับ  ก็ทำงานมาเหนื่อยแล้วครับกว่าจะเลิกงานมานั่งซักผ้าอยู่ โอ๊ย....ประหยัดยังไงก็ขอผ่านครับ  ขอใช้บริการบ้างเป็นครั้งคราวดีกว่า

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

จากออมเหรียญสู่ออมแบงค์

          นานมาแล้วผมเริ่มออมเงินโดยการเก็บเล็กผสมน้อยครับ  โดยเริ่มออมจากเหรียญที่เป็นเศษจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน. เมื่อได้เยอะมากๆ ผมก็จะนำเหรียญเหล่านี้นับใส่ถุงละร้อยไปฝากธนาคารออมสินแล้วก็นำไปซื้อสลากออมสินใบละ 1,000-2,000 บาท (สลากออมสิน 3 ปีหน่วยละ 50 บาท) หลังมานี้ก็เอาเงินจากการขายสลากไปซื้อหุ้นไว้บ้างแต่ก็ยังทำเช่นนี้เป็นประจำครับ  สิ่งหนึ่งที่ผมพบและคิดว่าเป็นปัญหาคือการนำเหรียณไปฝากธนาคารนั้นเริ่มเป็นสิ่งที่ไม่สะดวกเอาเสียเลยสำหรับชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างผม 

วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) SITHAI ตอนที่ 3

          ครั้งแรกในการซื้อหุ้น SITHAI ผมจำได้ขึ้นใจเลยครับว่าเคยซื้อตอนมีข่าวดีๆ ที่ราคาประมาณ 2.90 บาท (ซื้อมาแล้วขายไปเท่าทุนในตอนนั้น) แต่วันนี้ราคาลดลงเหลือเพียง 1.93 บาท ซึ่งถือว่าต่างกับราคาที่ผมเคยซื้อครั้งแรกเกือบๆ 30% ทีเดียว น่าแปลกอยู่ไม่น้อยเพราะในหุ้นหลายตัวที่ผลประกอบการค่อนข้างขาดทุนและไม่มีปันผลหลายตัวกลับไม่ได้ปรับตัวลงขนาดนี้ หรือว่าเหตุผลทางผลประกอบการ สัญญาณทางด้านเทคนิคก็ตาม แต่เคยมีคนบอกผมว่า  ให้ซื้อธุรกิจที่ดีในเวลาที่แย่ ดีกว่าซื้อธุระกิจที่แย่ในเวลาที่แย่ ตลาดหุ้นบางครั้งก็ไม่มีเหตุผลมารองรับมากนักเวลาที่หุ้นเกิดการปรับตัวด้านขึ้นลงของราคา แต่คราวนี้เราลองมาหาเหตุผลกันดูดีกว่าเผื่อเจอสิ่งที่น่าสนใจครับ  สำหรับบทความนี้เป็นการวิเคราะห์จากความเข้าใจหากมีข้อผิดพลาดประการใด ผมต้องขออภัยและยินดีน้อมรับคำติชมเพื่อปรับปรุงแก้ไขต่อไปครับ โดยขออ้างอิงจากคำอธิบายไตรมาส 1 ปี 2559 นะครับ

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) SITHAI ตอนที่ 2


        จากตอนที่ 1 มาถึงตอนที่ 2 ผมคิดอยู่นานครับ  ว่าจะเริ่มเขียนตอนที่ 2 ดีไหมเพราะหากใครเคยติดตามราคาของหุ้นตัวนี้ก็พอจะทราบดีว่านับจากต้นปีที่แล้วนั้นคือปี พ.ศ. 2558 หุ้น SITHAI มีแนวโน้นเป็นขาลงมาตลอดและยังไม่มีทีท่าว่าจะมีราคาของหุ้นปรับตัวดีขึ้น  ใจหนึ่งเพราะการเขียนบทความก็กลัวเป็นการชี้ชวนให้เพื่อนๆ  ที่ได้อ่านบทความซึ่งบางท่านอาจจะลงทุนหรือบางท่านอาจจะเกร็งกำไรอาจขาดทุนได้จากส่วนต่างของราคาครับ  ส่วนหนึ่งเพราะผลประกอบการของ SITHAI ดูเหมือนมีผลกำไรน้อยลงและประกอบกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว  ทำให้ราคาหุ้นมีการสะท้อนออกมาให้รูปของราคาที่ลดลง  แต่ผมขอสารภาพตามตรงว่าผมเองลงทุนและยังสนใจในพื้นฐานของหุ้นตัวนี้อยู่  อาจเป็นเพราะช่วงชีวิตของผมทำงานในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมมาโดยตลอดทำให้อาจมีความเข้าใจในหุ้นกลุ่มนี้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ  วันนี้จึงขอกลับมาเขียนบทความต่อครับ  แต่ราคาที่จะลงทุนหรือเกร็งกำไรนั้นเราต้องศึกษากันอีกครั้งครับ  แต่ผมอยากให้บทความของผมเป็นอีกแนวทางหนึ่งเพื่อช่วยในการตัดสินใจ  เพราะการที่เราจะลงทุนหรือไม่นั้นผู้ลงทุนควรเป็นคนที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองครับ

จดทะเบียนสมรสดีไหมนะ ?

          คำถามที่มักพบเมื่อต้องมีการตัดสินใจแต่งงานกันนั้นก็คือ  ควรจดทะเบียนสมรถดีไหม?   หากพูดถึงความรักระหว่างหนุ่มสาวการแต่งงานนั้น นอกจากการตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแล้ว  ในหลายๆ หลายคู่มักจะจดทะเบียนสมรสกัน แต่ก็มีอีกหลายคู่ที่เห็นว่าไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรถกันก็ได้  โดยเฉพาะคู่รักสมัยใหม่แค่รักกันก็พอ และในช่วงชีวิตผมที่ผ่านมาผมเองก็มีโอกาสได้เห็นคู่รักหลายคู่ที่สุดท้ายฝ่ายหญิงต้องนอนกอดทะเบียนสมรส  พร้อมได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเมียหลวงเพียงในนามนี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้การตัดสินใจจดทะเบียนสมรสต้องมีการคิดอย่างหนักไม่น้อย  พอๆ กับการตัดสินใจที่จะเลือกใครซักคนมาเป็นคู่ชีวิตของเรา  เพราะต้องคิดให้รอบด้านเพราะบางครั้งการจดทะเบียนสมรสอาจไม่ได้เหมาะกับทุกคู่ที่ตัดสินใจแต่งงานกัน  และก่อนการที่จะตัดสินใจว่าจะจดทะเบียนสมรสหรือไม่นั้นจึงต้องมีการคิดให้รอบด้านจริงๆ ก่อนการตัดสินใจ 

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ถุงหูหิ้ว เอาไปทำอะไรดี

          ถุงหูหิ้ว เอาไปทำอะไรดี คำตอบคือ ถุงใส่ขยะนี้เเหละครับเหมาะที่สุด สมัยก่อนตอนผมเรียนมหาวิทยาลัย สิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะต้องซื้อมาก่อนเลยน้ันก็คือถุงขยะครับ ซื้อมาเพื่อเอาไว้ทิ้งขยะ พวกขนม กล่องอาหาร ฯลฯ แรกๆ เลยผมใช้ถุงขยะใบเล็กครับ และก็พบความจริงว่าเปลื้องมากๆ ผมจึงเกิดความฉลาดขึ้นมาว่าทำไมเราไม่ใช้ถุงใหญ่ๆเลยล่ะ?  จึงไปลองซื้อถุงชยะใหญ่ๆมาเลย ตั้งไว้หลังห้องผลออกมาว่า มด แมลงสาป มากันเพียบ และพบความฉลาดตามประสบการณ์ว่าถุงหูหิ้วจากร้านสะดวกซื้อนี้แหละเหมาะกับการทำถุงขยะที่สุดแล้ว สำหรับคนที่อยู่คนเดียว ตามอพาร์เม้นต์ 1-2 วันเอาไปทิ้งที ดีที่สุดครับ

          ผมจึงเอาถุงหูหิ้วพวกนี้ไว้ใส่ขยะมาตั้งแต่สมัยเรียนครับ จนทำงานอาจเป็นเพราะอยู่คนเดียวด้วย ถุง Size ขนาดนี้จึงพอสำหรับขยะของมนุษย์เงินเดือนที่อาศัยอยู่คนเดียว และในความเป็นจริงเราได้มาบ่อยจนบ้างครั้งผมก็ขอปฎิเสธการรับถุงพวกนี้เลย เพราะซื้ออะไรนิดๆหน่อยๆ พนักงานก็พร้อมจะใส่ถุงหูหิ้วพวกนี้ให้เราครับ จนบ้างครั้งมันเยอะจนเอาไว้ใส่ขยะกันไม่ทัน เราจะเก็บอย่างไงให้มันดูเรียบร้อยละ ยัดๆ ใส่ลิ้นชักไว้ดีไหม? หรือเอามาพับเป็นรูป 3 เปลี่ยม (อันนี้ผมขี้เกียจแกะมาก)

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

หุ้นกับแฟนความเหมือนที่ไม่ได้แตกต่าง

           หุ้น หรือ share คือ หลักทรัพย์ที่แสดงความเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งในบริษัทราคาหุ้นจะเปลี่ยนแปลงตามผล ประกอบการของบริษัทและภาวะตลาด แฟน หมายถึง บุคคลที่ชื่นชอบ สามารถหมายถึงความรักหรือคนรักกันที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน หรืออาจหมายถึงสามี ภรรยา ในการพูดคุยครั้งหนึ่งๆ ที่พูดโดยฝ่ายสามีหรือฝ่ายภรรยา ดูจากความหมายแล้ว ไม่เห็นเหมือนกันเลย แต่เชื่อผมเถอะครับว่า เมื่อคุณจะก้าวสู่ตลาดหุ้นแห่งโลกทุนนิยมคุณจะพบว่าหุ้นกับแฟนมันคือความเหมือนที่ไม่ได้แตกต่างกันเลย ก่อนอื่นเรามาดูคำจำกัดความกันก่อนครับว่าความหมายของ 2 คำนี้คืออะไร

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

มนุษยฺ์เงินเดือนกับภาษีสังคม

          ภาษีสังคม หมายถึง รายจ่ายเพื่อการเข้าสังคมต่างๆหรือการสร้างเครือข่าย (Connection) ของตัวเอง เช่น งานแต่ง งานบวช งานศพ งานวันเกิด กินข้าวหลังเลิกงาน ไปเที่ยวกับเพื่อน ซองผ้าป่า ทำบุญ โอ๊ย เยอะครับ  เพราะเราอยู่ในสังคมที่มีเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน ลูกน้อง เราไม่สามารถหลีกหนี ภาษีพวกนี้ได้เลย ยังไงซะมันก็ต้องมีครับ ตัวผมเองเริ่มมีภาษีสังคมตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก็เช่นพวก กินเหล้า ไปเที่ยว ไม่ไปก็ได้ครับ แต่เพื่อนจะถามเราว่า "ใจหรือเปล่า" เมื่อใจก็ต้องไปครับ ทั้งๆที่ไม่อยากจะไปเลยจริงๆ

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559

ติดดอยสะท้านนนน...ผมจะทำอย่างไรดีละคราวนี้

ดอยยยยย
          วันนี้ตรงกับวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ผ่านไปแล้วกว่า 1 ปี สำหรับการเริ่มลงทุนในหุ้นของผม  ดันชนีตลาดหลักทรัพย์จาก 1,300 จุดในปี 2557 ขึ้นมาจนถึง 1,600 และในตอนนี้ มันกลับลงไปสู่ 1,300 จุด เหมือนกับการลงทุนในหุ้นแทบจะไม่ได้อะไรและกลับกลายเป็นการขาดทุนเสียด้วยซ้ำ เหมือนคำเปรียบเทียบที่คนที่ลงทุนในหุ้นหรือนักเล่นหุ้นเรียกอาการขาดทุนนี้ว่าการติดดอย  และในช่วง 1 ปีที่ผ่านนี้ บทเรียนในการลงทุนในหุ้น จนผมสามารถพูดได้เต็มปากเลยครับว่า "ผมได้อะไรเยอะเเยะจากการหุ้น  ยกเว้นเงิน" 

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559

บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) SITHAI ตอนที่ 1

           ต้องขอออกตัวก่อนนะครับ ว่าไม่ได้เก่งด้านหุ้นเพราะเข้ามาลงทุนได้ไม่นานครับ และตลาดช่วงนี้ต้องยอมรับครับว่า 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ มีแต่ทรงกับทรุดครับ ช่วงนี้ผมเองก็ไม่ได้กำไรจากการลงทุนในหุ้นเลย ออกแนวจะขาดทุนหรือที่เขาเรียกกันว่าดอยเสียด้วยซ้ำครับ แต่ในระหว่างนี้ที่เราๆ ท่านๆ ติดดอยกันอยู่ การนั่งเฝ้าหน้าจอจะทำให้เราเครียดกันเปล่าๆ ครับ ผมจึงคิดว่าเรามาศึกษาเรื่องหุ้นกันดีกว่าครับ ซึ่งวันนี้ผมขอแนะนำหุ้น sithai หรือ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ตามแนวทางการเลือกหุ้นของผม เพราะหุ้นตัวนี้ถือว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดีตัวหนึ่งครับ ต้องบอกก่อนนะครับว่าไม่ได้มาเชียร์หุ้น แต่หุ้นตัวนี้น่าสนใจ แต่กลับหาข้อมูลได้น้อยเพราะเมื่อก่อนเป็นหุ้นที่สภาพคล่องต่ำ ถึงปัจจุบันจะมีการแตกพาร์แล้วก็ยังมีการซื้อขายน้อยอยู่ แต่ผมคิดว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจที่สามารถเติบโตได้ และปันผลสูงครับ สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่าน 56-1 ก็สามารถอ่านได้ในบทความนี้เลยครับ และผมจะเพิ่มเติมส่วนอื่นๆ ที่ได้หาข้อมูลลงมาด้วยครับ เพราะหากเงินแต่ละบาทที่เราหามามันหามายาก การจะลงทุนในหุ้นซักตัวเราควรคิดให้ดีและศึกษาให้ละเอียดครับ หากคิดจะลงทุนในหุ้น "ควรศึกษาก่อนซื้อไม่ใช่ซื้อและติดดอยแล้วค่อยมาศึกษา" นะครับ

วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559

ของฝาก จำเป็นต้องซื้อไหมนะ ?

           วันนี้ตรงกลับวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559 อ้าว.....ก็เลยปีใหม่มาแล้วสิครับวันนี้  ใช่ครับเลยเทศกาลมาแล้ว วันแรกแห่งการทำงานเลยครับหลังจากหยุดมาแล้วหลายวัน หลายคนไปเที่ยวกับครอบครัว บางคนก็เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด  เป็นปกติธรรมดาครับของมนุษย์เงินเดือน และเมื่อวันแรกที่เรากลับมาจากเที่ยวหรือกลับบ้าน  สิ่งที่ผมฉุกคิดขึ้นมาได้นั้นก็คือ ของฝากนั้นเอง ไปไหนมาไหนข้างทางมีแต่ร้านขายของฝากครับ แล้วจำเป็นไหมละ ที่เราต้องซื้อของมาฝากคนอื่น เช่น เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน ลูกน้อง เมื่อลองดูเงินในกระเป๋า นี้มันก็ค่าใช้จ่ายชัดๆ มันจำเป็นด้วยหรอครับ ที่เราต้องซื้อของมาฝากคนอื่น แล้วหากเราซื้อมาฝากคนอื่น  คนอื่นเนี้ยเขาจะคิดซื้ออะไรมาฝากเราไหมนะ