สถิติการเข้าดูหน้า Blog

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

บัตร ATM กับกรุงศรี yellow point

             ก่อนอื่นคนที่ติดตามอ่านบล็อคของผมมาตลอตคงสงสัยว่าทำไม  ผมถึงมีบทความเกี่ยวกับธนาคารกรุงศรีบ่อย  อันนี้ขอออกตัวออกนะครับว่าเงินเดือนผ่านธนาคารนี้ครับ ความจริงผมเปิดบัญชีในเกือบทุกธนาคารครับแต่ผมติดปัญหาตรงที่ว่าผมไม่มีเงินถึงขนาดสามารถ review ผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ทุกธนาคารครับ  อันไหนใช้บริการบ่อยก็ขอบอกเล่าประสบการณ์อันนั้นมากหน่อยดูจะตรงตัวที่สุดครับ  สำหรับเรื่องนี้เริ่มมาจากทุกครั้งที่ผมเห็นสลิปการทำธุรกรรมทางการเงินของผม  ในทุกครั้งมันจะมีอยู่ช่องหนึ่งครับที่สรุปคะแนน yellow point ในสลิปทุกครั้งที่ผมจ่ายค่าบริการต่างๆ ผ่านตู้ ATM ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ติดใจหรอกครับว่ามันคือคะแนนอะไร จนผมลองมาหากข้อมูลในอินเตอรเน็ตดู

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เมื่อผมซื้อกองทุนรวม KF-HEALTHD (ตอนที่ 2)

          หลังจากที่ผมได้ศึกษาตัวกองทุนรวม  KF-HEALTHD  มาเกือบเดือน ผมจึงตัดสินใจไปธนาคารกรุงศรีเพื่อไปซื้อกองทุนนี้ครับ  ซึ่งวันนั้นผมหยุดตรงกับวันปกติพอดี  โดยมากแล้วการซื้อกองทุนรวมจากธนาคารนั้นจะสามารถซื้อได้ในวันจันทร์-วันศุกร์เท่านั้นครับ  แต่มีบางธนาคารที่ให้เราสามารถซื้อได้ในวันเสาร์อาทิตย์  ซึ่งเราควรสอบถามก่อนเพื่อที่เราจะได้ไม่ไปเสียเที่ยว  สำหรับธนาคารที่สามารถซื้อในวันหยุดได้เท่าที่ทราบก็มีธนาคารไทยพาณิชย์กับธนาคารกรุงไทย  ซึ่งจะได้ราคาในวันจันทร์ครับ  แต่ของกรุงศรีผมซื้อวันธรรมดา  โดยทั่วไปก็เหมือนกับการซื้อกองทุนของธนาคารอื่นๆ คือ ต้องทำแบบสอบถามประเมินความเสี่ยงและกรอกเอกสารเยอะมาก  แต่ในการซื้อครั้งต่อไปเราสามารถซื้อกองทุนอื่นๆ ของธนาครกรุงศรีผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้เลย  แล้วมาขอสมุดกองทุนในภายหลังได้ครับ

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เมื่อผมซื้อกองทุนรวม KF-HEALTHD (ตอนที่ 1)

          โดยปกติแล้วผมก็ซื้อพวกกองทุนรวมพวกนี้อยู่แล้วครับ  แต่วันหนึ่งผมลองไปลงทุนในหุ้นแทนเลยขายกองทุนในประเทศที่เคยซื้อออกไปซื้อหุ้น  เมื่อผ่านการลงทุนมาได้ซักพักผมพบว่าหุ้นมันยากกว่าที่ผมคิดครับ ผมอาจพลาดก็ได้  แต่เป้าหมายผมยังคงเดิมครับ คือผมเเบ่งเงินออมพวกนี้ไปในการลงทุน  ระยะสั้น  ระยะปานกลาง  และระยะยาวครับ  แต่วันนี้ขอพูดถึงการออมระยะยาวครับ  เพราะผมตั้งใจว่าจะซื้อเพื่อการลงทุนไว้เพื่อใช้ยามเกษียณ จึงลองกลับไปดูกองทุนอีกครั้งเพื่อลงทุนระยะยาวแบบถัวเฉลี่ย  ผมจึงลองหากองทุนซักตัวที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาวและคิดว่าเหมาะกับตัว

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ผมอยากลาออก

       ในที่ทำงานที่แรกของผม ผู้จัดการท่านหนึ่งเคยถามผมเพื่อที่จะปรับเลื่อนตำแหน่งหลังจากที่อยู่ในตำแหน่งรักษาการหัวหน้าส่วนฝ่ายผลิตในโรงงานแห่งหนึ่งมานานแสนนานว่า "คุณคิดว่า คุณทำงานเพื่ออะไร" ตอนนั้นผมรวบรวมสติคิดอย่างถี่ถ้วนและตอบออกไปว่า "ผมทำงานเพื่อเงินครับ เพราะตราบใดที่เรายังต้องทานข้าว แน่นอนครับคนเราต้องการเงิน หากถามผมในคำถามที่ว่าทำงานเพื่ออะไร" เชื่อไหมครับผมโดนให้รักษาการหัวหน้าส่วนต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะลักษณะรูปแบบความคิดผมไม่ผ่าน ตอนนั้นผมรู้สึกสับสนว่าผมตอบผิดตรงไหน ผมจึงได้แต่ปรึกษาผู้จัดการท่านอื่นที่สนิทกัน ผู้จัดการท่านนั้นหัวเราะแล้วบอกว่าผมตอบไม่ผิดหรอก คนที่ถามผมเขาก็ต้องการเงิน มีใครมาทำงานฟรีเพราะใจรักบ้างละ ที่ผมตอบนั้นคือความจริง แต่นั้นไม่ใช่คำตอบที่เขาอยากได้ยิน

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เก็บสลิป ATM อย่างไร?....หากหมึกจางไว

          เคยเจอปัญหาไหมครับว่าสลิป ATM ที่เราทำรายการแล้วได้มานั้น  หมึกมักจะหายไปอย่างรวดเร็ว  ผมก็เป็นคนหนึ่งครับ ที่ในหลายครั้งเราก็อยากจะเก็บไว้เป็นหลักฐานในการโอนเงินหรือฝากเงินของเรา เพราะบางครั้งการซื้อขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต  เราก็อยากเก็บไว้เป็นหลักฐาน แต่หมึกสลิปพวกนี้มักจะหายไปภายในไม่กี่วัน  โดยเฉพาะหากคุณเก็บมันไว้ในกระเป๋าสตางค์  เท่าที่ผมหาข้อมูลมามีคนแนะนำเรื่องนี้เยอะแยะครับ  เช่น แช่ตู้เย็นไว้ (อันนี้ตอนจะใช้แล้วอยู่ข้างนอกบ้านจะทำอย่างไร)  ถ่ายเอกสาร (สิ้นเปลืองไปหน่อยหากถ่ายเองแต่หากไปถ่ายที่ทำงานนี้โดนด่าแน่นอนครับ) หรือไม่ก็ ถ่ายรูปไว้ในมือถือ (อันนี้ลำบากตอนหาในแกลลอรี่ครับเพราะมันปนกับรูปถ่ายอื่นๆ) เก็บไว้ในถุงพลาสติก (ผมต้องพกถุงพลสติกไปไหนมาไหนตลอดเลยหรอเนี้ย ไม่ไหวๆ) สุดท้ายทุกวันนี้ก็ไม่ได้คำตอบที่จะเก็บรักษาสลิปพวกนี้ไว้เลย  เพราะผมก็อยากให้พกสะดวกและง่ายตอนใช้งานและค้นหาครับ จนผมได้ทดลอง Google Drive ครับ เอาละครับมาลองดูกันดีกว่า ว่ามันดีจริงไหม

ประเภทของประกันชีวิต (ตอนที่ 4)

        4. แบบมีเงินได้ประจำ (Annuity) เป็นแบบประกันที่มีมูลค่าเงินสดครับ โดยจะมีการเก็บเบี้ยประกันมาเป็นระยะค่อย ๆ สะสม เพื่อเพิ่มพูนมูลค่าเงินสดไปเรื่อย ๆ พอได้เงินก้อนใหญ่แล้ว บริษัทจะทยอยจ่ายคืนลูกค้าเป็นงวด ๆ ครับ เช่น จ่ายคืนเป็นรายเดือน รายปี หรือราย 3 ปีเป็นต้น เงินที่บริษัทคืน เรียกว่า เงินได้ประจำ (Annuity) เสมือนหนึ่งที่เราเก็บเงินสะสมมาเป็นบำนาญให้แก่ตัวเอง  เมื่อเกษียณอายุการคำนวณเบี้ยประกันแบบเงินได้ประจำ  ไม่เหมือนกับการคิดเบี้ยประกันของการประกันชีวิตบริษัทจะต้องใช้อีกอัตราสำหรับแบบประกันแบบนี้โดยเฉพาะ โดยพิจารณาทั้งอายุและเพศมาคานวณเพราะเพศหญิงอายุยืนกว่าเพศชาย จึงมีโอกาสรับเงินบานาญนานกว่าเพศชาย 

ประเภทของประกันชีวิต (ตอนที่ 3)

         3. แบบสะสมทรัพย์ (Endowment) คงพอทราบรายละเอียดของประกันชีวิตใน 2 แบบแรกกันไปแล้ว ก็คือ แบบมีกำหนดระยะเวลาแล้วก็แบบตลอดชีพ ซึ่งในตอนที่ 3 นี้ผมจะขอแนะนำประกันชีวิตอีกแบบนั้นก็คือ แบบสะสมทรัพย์ (Endowment) ซึ่งการประกันชีวิตเราต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ใช่การลงทุน เเต่เป็นการประกันความเสี่ยงนะครับ เพราะผลตอบแทนที่ได้รับในรูปแบบของเงินที่เราจะได้เมื่อครบกำหนด มันถือว่าน้อย จึงเป็นในลักษณะเหมือนการออมซะมากกว่า และในแบบสะสมทรัพย์จะมีความใกล้เคียงกับการฝากเงิน แต่ต่างกันที่ระยะเวลา ผลตอบแทน และความคุ้มครองนั้นเอง

ประเภทของประกันชีวิต (ตอนที่ 2)

           2.แบบตลอดชีพ (Whole Life) สำหรับรูปแบบนี้เป็นประกันแบบที่ให้ความคุ้มครองตลอดชีพ คือ เป็นลักษณะของการประกันแบบสะสมทรัพย์ครบอายุ 100 ปี (ปัจจุบันบางบริษัทใช้อายุครบ 80 ปี หรือ 90 ปี เป็นเกณฑ์การออกแบบตลอดชีพ) ถ้าอายุถึง 100 ปี ก็รับทุนประกันคืน การประกันแบบตลอดชีพถือเป็นการสร้างมรดกเงินสดให้แก่ทายาท หรือในกรณีนักธุรกิจ ที่มีหนี้สินกับสถาบันการเงิน ถ้าผู้บริหารเสียชีวิต  ในขณะที่ธุรกิจยังมีหนี้กับธนาคาร หรือสถาบันการเงินก็จะมีเงินใช้หนี้แทนได้  การประกันแบบตลอดชีพ มีระยะเวลาชาระเบี้ยประกัน  เช่น 10 ปี, 20 ปี หรือชาระครบอายุ 50, 55, 60 ปี  หรือชาระตลอดสัญญา

ประเภทของประกันชีวิต (ตอนที่ 1)

 สมัยที่ผมเริ่มทำงานช่วงปีแรกๆ เมื่อพนักงานธนาคารชวนทำประกันชีวิตผมจะกลัวมากครับ เพราะในอินเตอร์เน็ตมักมีกระทู้บอกว่าโดนพนักงานธนาคารต่างๆหลอกทำประกันชีวิตอยู่บ่อยครั้ง  ซึ่งสมัยนี้ก็ยังมีกระทู้แนวนี้อยู่ครับ  ผมว่านะครับหลายคนก็กลัวเหมือนผมว่า หากมีใครมาชวนทำประกันนี้ต้องมาหลอกเราแน่นอน แต่ผมว่าบางทีเราควรที่จะลองฟังดูก่อน แต่หากใครมาชวนผมขอแนะนำนะครับว่าให้ตั้งสติและลองฟังดูก่อนครับ เช่น  หากเป็นพนักงานธนาคารมาชวนควรฟังครับและขอรายละเอียดมาเพื่อศึกษาก่อน อันนี้ต้องมีสติครับอย่างเพิ่งตกปากรับคำ ควรขอรายละเอียดกลับมาศึกษาดูก่อนครับ เพราะประกันชีวิตนั้นมีหลายแบบแถมส่งหลายปี ฉะนั้นควรตัดสินใจอย่างรอบครอบ  แต่หากในกรณีที่มีใครชวนซื้อประกันทางโทรศัพท์  อันนี้ตอบยากมากๆว่าดีหรือเปล่า เพราะมีกระทู้ว่าโดนหลอกขายประกันทางโทรศัพท์เยอะยิ่งกว่าโดนพนักงานธนาคารหลอกขายประกันอีกครับ  เพราะเราฟังเเล้วยังไม่เข้าในรายละเอียดและเงื่อนไขดีและรีบในการตัดสินใจไปครับ อันนี้หากยังไม่เข้าใจขอให้ปฎิเสธไปก่อนครับ แล้วมาถามตัวเองอีกครั้งว่าเราต้องการประกันชีวิตตัวที่เขาแนะนำไหมและขอรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนจะตัดสินใจครับ

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ ให้ราคาเหมาะกับเรา

         ต้องยอมรับครับว่าโทรศัพท์มือถือ ในยุคสมัยนี้เป็นอะไรที่เราหลีกเสี่ยงไม่ได้จริงๆ  ในบทความของผมก่อนหน้านี้ผมเองก็หมดเงินไปพอสมควรในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ครับ บางครั้งผมก็เคยคิดนะครับว่าการเลือกซื้อมือถือของผมเป็นแบบที่เขาเรียกว่า "เสียน้อยเสียมาก  เสียยากเสียง่าย" หรือเปล่า มือถือที่ผมซื้อมามันคุ้มค่าจริงๆแล้วหรือกับเงินที่ผมเสียไป ซึ่งก็อย่างที่คิดแล้วเฉลี่ยๆ มือถือที่เราซื้อเครื่องหนึ่งใช้ไปได้ 1-2 ปี คุ้มหรือเปล่า ลองคิดกันเล่นๆ นะครับ หากผมเริ่มมีมือถือเครื่องแรกตอนอายุ 18 ปีและเสียชีวิตซัก 60 ปี ก็ประมาณ 42 ปี เอาแค่ 60 ปีพอครับ อยู่นานขี้เกียจเก็บเงิน ผมซื้อมือถือเอาซักราคากลางๆ เครื่องละ 10,000 บาท ใช้คุ้มค่ามากๆ ซัก 1 เครื่องใช้ได้ 2.5 ปีเลย ดังนั้นก่อนผมจะตายผมต้องใช้เงินซื้อมือถือทั้งหมดก็ 168,000 บาท (โชคดีจริงๆ คิดว่า 60 ปีก็ตายแล้ว) 

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เดี๋ยวก็แก่....เกินไปกว่าที่จะเที่ยว

          ผมเคยคิดนะครับว่า หากเก็บเงินได้เยอะๆ แล้วค่อยไปเที่ยวตอนแก่ดีกว่า  เพราะการเที่ยวสำหรับผมถือว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลืองครับ เป็นเหตุและผลส่วนตัวที่ผมเคยคิด ว่าการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่หมดเงินเยอะมากๆ และเมื่อเที่ยวเสร็จความสนุกก็คงหมดไปพร้อมๆกับเงินที่หามาได้อย่างยากสำบาก มันคุ้มค่าจริงๆหรือกับการไปเที่ยว  เวลาว่างในวันหยุดของผมจึงหมดไปกับการนอนดูหนังออนไลท์ที่ห้อง แต่มีคำถามในใจว่าทำไมคนอื่นๆถึงไปเที่ยวกัน น่าเสียดายที่พวกเขาน่าจะเริ่มเก็บเงินก่อน ช่วงเวลาที่ผ่านมาหลายปีผมจึงแทบไม่เคยไปเที่ยวอย่างจริงจัง กับเพื่อนร่วมงานเลย เพราะผมมักจะเก็บเงินอย่างเดียว ทั้งในกองทุนรวม ในหุ้น ซึ่งสภาพคล่องต่ำ การขายสิ่งพวกนี้เพื่อไปเที่ยวจึงดูเป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถทำได้เพราะความเสียดาย และในเมื่อทุกครั้งที่เพื่อนร่วมงานชวนไปเที่ยวไหน ผมก็ต้องปฏิเสธไปทุกครั้งเพราะความเสียดายเงินที่หามาได้  และการออมของผมทำให้ผมเก็บเงินสดไว้เพียงพอแค่การกินใช้ในแต่ละวันเท่านั้น

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สินค้าป้ายเหลือง

     ในยุคสมัยปัจจุบันเราสามารถพบเจอสินค้าป้ายเหลืองที่เป็นอาหารในเวลาจวนเจียนช่วงเวลาประมาณ 19.00-22.00 น.ก่อนที่ห้างสรรพสินค้าจะปิด ซึ่งทุกวันนี้ตามร้านสะดวกซื้อก็มีการติดป้ายเหลืองในอาหารและสินค้าอุปโภคที่ใกล้หมดอายุแล้วเช่นกัน ถือว่าเป็นนาทีทองของการซื้อเลยทีเดียวครับ สินค้าป้ายเหลืองนั้นต้องยอมรับว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ เราลองมาแบ่งๆประเภทกันดูดีกว่าครับว่าสินค้าป้ายเหลืองเนี้ยมันมีประเภทไหนบ้าง อันนี้ของแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆนะครับ สามารถแบ่งได้ดังนี้ครับ


วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

"ลาเต้เอฟเฟคท์" Late Effect


        นานมาแล้วครับผมได้อ่านหนังสือเล่มแรกๆเกี่ยวกับพวกการออม ชื่อหนังสือก็จะประมาณเก็บเงินล้านแรกๆ นี้เขาทำกันอย่างไร ในช่วงต้นของหนังสือมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ Late Effect บอกเล่าเรื่องราวของเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เงินเดือนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ถือว่าน้อย แต่สิ่งที่เพื่อนร่วมงานของผู้แต่งขาดไม่ได้เลยคือ การดื่มการแฟดีๆเย็นๆซักแถ้วนึ่งทุกวัน ซึ่งแน่นอนเพื่อนร่วมงานของผู้แต่งก็มักจะบ่นให้ฟังเสมอว่าเงินเดือนไม่ค่อยจะพอใช้ สาเหตุนั้นของปัญหานี้หาง่ายมากๆ เลยครับเพราะกาแฟที่ดื่มทุกวันนั้นเอง สำหรับเเนื้อหาคราวๆก็จะประมาณว่ากาแฟแถ้วดังกล่าวถูกจ่ายด้วยราคาที่แพงแสนแพงนั้นเอง ใจความสรุปสั้นๆว่า...