สถิติการเข้าดูหน้า Blog

วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี จํากัด (มหาชน) RP

          หลังจากพาเพื่อนๆ ไปดอยตัวแรกกับหุ้นตัวแรกนั้นก็คือหุ้น SITHAI กันมาบ้างแล้ว วันนี้ผมมีหุ้นตัวใหม่ที่จะพาเพื่อนๆ ดอยกันอีกรอบ เฮ้ยไม่ใช่.......ไปดูครับ ไปดู นั้นก็คือหุ้น บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือที่มีชื่อในย่อตลาดหลักทรัพย์ว่า RP แต่หลายคนที่ได้ยินชื่อหุ้นตัวนี้ต้องถึงกับร้องลั่นเลยทีเดียว เพราะจำได้ว่าวันที่เข้าตลาดวันแรกๆ หากผมจำไม่ผิดราคาไปถึง 18.4 บาท จากราคา IPO 12 บาทแล้วราคาก็ไหลลงมาเรื่อยๆ จนแตะที่เกือบ 6.30 บาท และตอนนี้ วันที่ 2 มิถุนายน 2559 ราคาปิดอยู่ที่ 9.15 บาท ซึ่งหากพูดถึงราคาที่กลับมาก็บวกกว่า 33% และมีปันผลติดไม้ติดมืออีกที่ 0.82 บาท/หุ้นหรือคิดเป็น 8.96% ผมไม่น่าใจว่าคนที่ถือตั้งแต่ IPO น่าจะมีขายไปบ้างแล้วหรือเปล่า?  ตอนช่วงราคาแพงๆ เตะ 18 บาท แต่หากซื้อราคานี้ก็ดูเป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย  หากคิดจะลงทุนว่าแต่ ....บริษัทนี้เขามีกิจการอะไรกันบ้างล่ะ? แล้วน่าสนใจหรือเปล่า? เรามาลองดูกันดีกว่าครับ แต่บทความนี้ผมขอนำเสนอในรูปแบบของกิจการกับการเงินนิดหน่อยนะครับ เพราะไม่เก่งเรื่องงบการเงินเหมือนกันครับ


           สำหรับบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) เสนอขายหุ้นต่อประชาชน จำนวน 38,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 22.35 ของหุ้นทั้งหมด และซื้อขายวันแรกในวันที่ 11 พฤษจิกายน 2558 ในตลาด mai หมวดธุรกิจ (Sector) กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ โดยมีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อชำระหนี้เงินกู้ระยะยาว 2.เพื่อลงทุนซื้อเรือเฟอร์รี่ใหม่ 3. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ลักษณะการประกอบธุรกิจ
           บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) นั้นประกอบกิจการเดินเรือ โดยมีเรือเฟอร์รี่จำนวน 12 ลำ 2 เส้นทาง และมีธุรกิจจำหน่ายอาหารและสินค้าในร้านสะดวกซื้อ

  - เส้นทางระหว่างอำเภอดอนสัก-อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

  - เส้นทางอำเภอดอนสัก-อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี


 1. ธุรกิจการเดินเรือเฟอร์รี่ บริษัทมีรายได้จากการโดยสารและขนส่งและรายได้ร้อยละ 90 ของรายได้รวม จากการเดินเรือเพื่อบรรทุกผู้โดยสารและยานพาหนะประเภทต่างๆ และมีท่าเรือ 2 แห่งคือ ท่าเรือดอนสักสากลและท่าเรือสมุยสากล  รวมทั้งใช้ท่าเรืออเนกประสงค์ของเทศบาลเกาะพงันโดยมีการค่าภาระเทียบเรือให้เทศบาลตำตำบลเกาะพงั้น ตามจำนวนเรือเฟอร์รี่ที่จอดใช้ท่า การเดินเรือการให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่ของบริษัทมีทั้ง การเดินเรือแบบประจำทางตามเที่ยวเวลา (Scheduled Ferry Services) และการเดินเรือแบบเหมาลำ (Chartered Ferry Services)  สำหรับเรือเฟอร์รี่ทั้ง 12 ลำมีการจัดพื้นที่สำหรับบรรทุกผู้โดยสารประมาณ 220-400 คน และยานพาหนะได้ 23-70 คัน โดยการบรรทุกแบบเหมาลำนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการบรรทุกสินค้าที่มีลักษณะพิเศษ เช่นรถบรรทุกแก๊สหรือน้ำมัน เป็นต้น โดยเฉลี่ยอายุของเรือราชาเฟอร์รี่ค่อนข้างมีอายุพอสมควรครับ และเป็นลักษณะของเรือมือ 2 เรื่องเรือเก่าหรือใหม่นั้นขึ้นอยู่กับการซ่อมบำรุงครับ จำนวนเรือที่มีมากถึง 12 ลำถือเป็นจุดเด่นของราชาเฟอร์รี่ แต่อายุเรือที่มากโดยเฉลี่ยอาจถือเป็นข้อเสียในส่วนนี้ครับ ตรงนี้ขอค้างไว้ก่อนครับ เรื่องการซ่อมบำรุงขอมาตอนท้ายบทความแล้วกันครับ

       หมายเหตุ ตันกรอส หมายถึง น้ำหนักทั้ง1 หมดที่สามารถบรรทุกได้ ซึ่งได้รวมน้ำหนักตัวเรือและน้ำหนักผู้โดยสารและสิ่งของทุกบรรทุก


          2. ธุรกิจการจำหน่ายอาหารและสินค้าในร้านสะดวกซื้อ
ส่วนนี้มีรายได้ประมาณร้อยละ 8 โดยรายได้ส่วนนี้มาจากร้านอาหาร,ร้านสะดวกซื้อ แบบแฟรนไชส์ "Fresh Mart" ร้านจำหน่ายเครื่องดื่ม แบบแฟรนไชส์  "ดอยช้าง" และการรับฝากขายสินค้าบางประเภท เช่น หนังสือ อาหารแห้ง สินค้าพื้นเมือง โดยการฝากวางในร้านค้าสะดวกซื้อของรายได้รวม  ตรงมีความน่าสนใจตรงมี่เรือเฟอร์รี่มักจะใช้เวลาในการข้ามฟากประมาณ 1.5 ชั่วโมง ซึ่งรายได้ในการจำหน่ายอาหารมีไม่มานักแต่มีการจำหน่ายอาหารบนเรือด้วย และที่ท่าเรือทั้ง 2 แห่งก็มีร้านสะดวกซื้อตรงนี้ไว้บริการ รายได้และกำไรในส่วนนี้ถือว่าไม่มากนะถือได้ว่าเป็นจุดเด่นครับ



          3.รายได้อื่นๆ บริษัทมีรายได้อื่นๆ คิดเป็นประมาณร้อยละ 2 - 4 ของรายได้รวม. ประกอบด้วยรายได้จากการให้บริการจองตั๋วเรือโดยสารผ่านสายการบินพันธมิตร รายได้จากค่าโฆษณาป้ายที่บริเวณท่าเรือและในเรือเฟอร์รี่  รายได้จากค่าโฆษณาในแผ่นพับแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว (Guide Map) กำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สิน รายได้จากการขายเศษซาก รายได้ค่าดำเนินการ รายได้ค่าเช่า ได้แก่ การให้เช่าแผงบริเวณท่าเรือเพื่อขายสินค้าพื้นเมืองหรือสินค้าท้องถิ่น การให้เช่าพื้นที่เพื่อติดตั้งตู้เอทีเอ็มของธนาคารบริเวณท่าเรือดอนสักสากลและท่าเรือสมุยสากล เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยและการให้เช่าพื้นที่แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้เป็นจุดให้บริการแก่ลูกค้า เป็นต้น


ผลประกอบการ
          ดำเนินงานไตรมาส 1/59   พบว่า มีรายได้รวมไตรมาส 1/59  จำนวน 169.6 ล้านบาท สูงขึ้นจากเดิมคิดเป็น 5.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558  ซึ่งมีจำนวน 160.3 ล้านบาท บริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ทำให้เปอร์เซ็นต์ต้นทุนต่อยอดขายในไตรมาสนี้ คิดเป็น 64.5 % ลดลงจากไตรมาส 1/58 ซึ่งอยู่ที่ 68 % บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/59  เป็นเงิน 31.5 ล้านบาท สูงขึ้นจากเดิม 7.9 % เมื่อเทียบ กับกำไรสุทธิไตรมาส 1/58 ซึ่งมีจำนวนเท่ากับ 29.2 ล้านบาท  และมีต้นทุนทางการเงินลดลงคิดเป็น 40.4 เปอร์เซ็นต์ จาก 4 ล้านบาท เหลือ 2.4 ล้านบาท

         ในจังหวัดสุราษฏร์ธานีมีผู้ให้บริการจำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่จำกัด (มหาชน) และบริษัทซีทราน เฟอร์รี่จำกัด ซึ่งเป็นคู่แข่งขันโดยตรงมากกว่าบริษัทให้บริการเรือประเภทอื่นและสายการบินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน และกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัท ซีทรานเฟอร์รี่ จำกัด ยังได้ประกอบธุรกิจเดินเรือคาตามาราน เรือความเร็วสูง (High Speed Boat) และเรือยอร์ช รวมเป็นจำนวน 5 ลำ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ซีทราน ดิสคัฟเวอร์รี่ จำกัด (บริษัทในกลุ่มของบริษัท ซีทรานเฟอร์รี่ จำกัด) เพื่อให้บริการเรือโดยสารจากจังหวัดชุมพรไปยังเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ด้วย
หมายเหตุ เป็นกำไรประจำปี ที ยังไม่ได้รวมรายการขาดทุนเบ็ดเสร็จอื น จำนวน 27.31 ล้านบาท ซึ งจะมีผลทำให้มีกำไรเบ็ดเสร็จรวมมีจำนวนคงเหลือ 24.00 ล้านบาท

เงินปันผล
          บริษัทมีนโยบายปันผลร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิ์หลังหักภาษีเงินได้ จากการปันผลครั้งแรกที่ที่ผ่านมาราชาเฟอร์รี่ ได้ปันผลเป็นจำนวนเงิน 0.82 บาท/หุ้น ซึ่งถือว่าเป็นผลตอบแทนจากการปันผลอยู่ที่ร้อยละ 8.86%  หากเทียบกับราคาปัจจุบันที่ราคา 9.15 บาท/หุ้น ณ. วันที่ 2 มิถุนายน 2559  ซึ่งตอนนี้ราคาหุ้นของราชาเฟอร์รี่ยังต่ำกว่าราคา IPO 12 บาท หลายคนอาจมีข้อสงสัยเหมือนตามเว็บบอร์ดที่ผมเห็นมาคือทำไมราชาเฟอร์รี่ถึงจ่ายเงินปันผลได้ถึง 0.82 บาท/หุ้น ทั้งๆ ที่ในรอบปี พ.ศ. 2558 ผลประกอบการของราชาเฟอร์รี่มีผลประกอบการที่ 0.57 บาท/หุ้น นั้นก็เนื่องจากสิทธิพิเศษในส่วนของ BOI ซึ่งตอนนี้ราชาเฟอร์รี่ก็ยังมีเรือที่มีสิทธิด้านภาษีของเรืออยู่ที่ประมาณ 3 ลำนั้นเอง ส่วนอนาคตโครงการซื้อเรือเพิ่มเติมอีก 2 ลำก็น่าจะได้สิทธิตรงนี้ด้วยเช่นกัน

 - ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (BOI) ในอัตราหุ้นละ 0.45บาท

หมายเหตุ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิรวมกันไม่เกินร้อยละ 100 ของเงินลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน เป็นระยะเวลา 8 ปี

การซ่อมบำรุง 
          บริษัทมีกองเรือเฟอร์รี่จำนวนรวม 12 ลำ โดยมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 37 ปี ซึ่งบริษัทได้จัดซื้อเรือเฟอร์รี่ใช้งานแล้วมาจากต่างประเทศ เนื่องจากเรือเฟอร์รี่ที่ใช่งานแล้วจะมีราคาที่ถูกกว่าเรือเฟอร์รี่ใหม่  เรือของบริษัทจะมีอายุเฉลี่ยมากกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรม  ส่งผลให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาค่อนข้างสูงแผนการซ่อมบำรุงประจำปี ซึ่งใช้งบประมาณจำนวน 1 – 3 ล้านบาท ต่อลำต่อครั้งและแผนการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ประมาณ 2 เดือนต่อลำ หรือใช้งบประมาณจำนวน 3 – 8 ล้านบาทต่อลำต่อครั้ง

แผนการซ่อมบำรุงประจำปี
          บริษัทมีแผนงานซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ต่างๆ เป็นประจำทุกปี และมีมูลค่าการซ่อมแซมประมาณ 1 - 3 ล้านบาทต่อลำในแต่ละครั้ง เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง การเปลี่ยนอะไหล่เครื่องยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น โดยบริษัทจะนำเรือเฟอร์รี่ไปจอดเพื่อซ่อมบำรุงที่ท่าเรือสมุยสากล ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ซ่อมบำรุงเรือเฟอร์รี่ และเก็บอะไหล่ต่างๆ สำหรับการซ่อมบำรุงทั่วไป

แผนการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่
          บริษัทมีแผนซ่อมบำรุงครั้งใหญ่เป็นประจำประมาณทุก 30 เดือน ทั้งนี้การซ่อมบำรุงครั้งใหญ่จะต้องนำเรือเฟอร์รี่ขึ้นคานเรือ  เพื่อตรวจสอบคุณภาพเหล็กใต้ท้องเรือ ใบจักร หางเสือ ทำความสะอาดและทาสีกันสนิมใต้ท้องเรือ รวมทั้งซ่อมบำรุงเครื่องจักรโดยช่างเครื่องที่มีความรู้และความชำนาญโดยเฉพาะปัจจุบัน บริษัทมีแผนการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ในช่วงเดือนกรกฏาคม 2558 – เดือนธันวาคม 2560 ดังนี้

          มุมมองของผมในเรื่องของเรือซึ่งหากพิจารณาจากข้อมูลถือข้างต้นถือว่าเรือของราชาเฟอร์นี้มีอายุของเรือที่ค่อนข้างเก่ากว่าคู่แข่งครับ  แต่จำนวนก็มากกว่าตรงนี้ถือว่าแบบ 56-1 ของปี 2558 มีการชี้แจงอย่างละเอียดและชัดเจนถึงลักษณะการซ่อมบำรุงในส่วนนี้ครับ หากพิจารณาค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุงนี้ก็ถือว่าค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะเพราะเรือเก่า  แต่เรื่องการซ่อมบำรุงนั้นทางบริษัทเองก็ได้ชี้แจงมาอย่างละเอียด  แต่ลักษณะของธุรกิจนี้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารนั้นเป็นสิ่งสำคัญ  การชี้แจงอย่างละเอียดแบบนี้ก็ทำให้ผู้ถือหุ้นวางใจได้ในระดับหนึ่งครับว่าเรือนั้นมีมาตรฐานการซ่อมบำรุงที่ดี  และจากข่าวล่าสุดจากทางเว็บไซต์บริษัทท่าเรือราชาเฟอร์รีทางบริษัทเองก็มีโครงการซื้อเรือถึง 3 ลำซึ่งก็อาจมาทดแทนหรือเพื่อรองรับตัวธุรกิจ  และจากข่าวล่าสุดที่ชี้แจงในเว็บไซต์ตลาดหลักททัพย์แหงประเทศไทยก็ได้มีความคืนหน้าในการซื้อเรือเฟอร์รี่ลำแรกแล้ว มูลค่า 111,248,000 ล้านบาท 

หมายเหตุ: * การประมาณการมูลค่าซ่อมบำรุงครั้งใหญ่จะพิจารณาจากประวัติการซ่อมบำรุงครัั้งใหญ่ที่ผ่านมา ประกอบกับการซ่อมบำรุงประจำปี ที่ทำโดยทีมงานช่างของบริษัท

ปัจจัยความเสี่ยง (ข้ออื่นอ่านเพิ่มเติมใน 56-1 นะครับ)
1. ความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่ ซึ่งการเดินเรือข้ามฟากทางทะเล จะมีความเสียงในการเกิดอุบัติเหตุที่ เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น คลื่นลมทะเล และพายุ เป็นต้น

2. ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทย สภาวะเศรษฐกิจที่เจริญเติบโตทั้งภายในประเทศและต่างประเทศจะส่งผลกระทบต่อภาวะการท่องเที่ยวของประเทศมีการเติบโตขึ้น และส่งผลดีกับผลการดำเนินงานของบริษัทแต่หากเกิดภาวะไม่ปกติ เช่น สงคราม การก่อการร้าย โรคระบาด หรือความไม่มั่นคงของทางรัฐบาล ภัยธรรมชาติ เป็นต้น

3. ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการขอต่อใบอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเลของท่าเรือดอนสักสากลและท่าเรือสมุยสากล ใบอนุญาตดังกล่าวสำหรับท่าเรือเฟอร์รี่ทั้ง  2 แห่ง ซึ่งมีอายุใบอนุญาตตั้ง แต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2544 – 13 พฤศจิกายน 2559 รวมเป็นเวลา 15 ปี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากใบอนุญาตของท่าเรือทั้ง 2 แห่งดังกล่าวจะหมดอายุในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2559

4. ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงบุคลากรที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะทาง ทางบริษัทมีการจ่ายค่าตอบแทนในอัตราตลาดเพื่อจูงใจให้แก่บุคลากรดังกล่าว บริษัทต้องการให้พนักงานมีการทำงานที่บริษัทอย่างต่อเนื่องและเติบโตไปพร้อมๆ กับความสำเร็จของบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังมีการติดต่อกับสถาบันการศึกษาต่างๆ ทางภาคใต้เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการสรรหากำลังคนให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง

5. ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันเชื้อพลิง บริษัทมีต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 47 - 59 ของต้นทุนการให้บริการ ซึ่งเป็นต้นทุนที่มีสัดส่วนสูงที่สุดในต้นทุนการให้บริการของบริษัท ดังนั้น  ความผันผวนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการให้บริการของบริษัท

การใช้บริการเรือเฟอร์รี่
          ผมได้ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการเรือเฟอร์รี่  ใจจริงอยากจะอธิบายวิธีขั้นตอนการใช้บริการเพื่อให้เห็นภาพของธุรกิจครับ  แต่ผมเองก็ไม่เคยใช้บริการเรือเฟอร์รี่เลยเพราะเกาะสมุยผมก็ยังไม่เคยไปครับ  กลัวอธิบายแล้วขาดตกบกพร่องหรือตกหล่นไป  แต่หลังจากพยายามหาข้อมูลจึงไปเจอวิดีโอการรีวิวการใช้บริการเรือเฟอร์รี่ซึ่งเป็นของราชาเฟอร์รี่พอดี  จึงขออนุญาตนำมาลงในบทความนี้นะครับ ดูจากวิดิโอแล้วพบว่าคนใช้บริการเยอะดีครับ น่าสนใจไม่น้อยครับ


รีวิวเรือเฟอร์รี่ไปเกาะพงัน Ferry to Ko Pha Ngan island

ด้านราคาหุ้น 
          ตรงนี้ขอออกตัวอีกเช่นกันนะครับว่านอกจากงบการเงินไม่ค่อยเก่งกราฟก็เช่นกัน แต่ในช่วงสัปดาห์นี้วันที่ 31 พฤษภาคม ถึง วันที่ 4 มิถุนายน 2559 ราคาของหุ้นบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี จํากัด (มหาชน) RP มีการปรับตัวขึ้นมาพอสมควรและราคาก็สามารถยืนอยู่เหนือเส้น EMA 20 ตามรูปด้านล่าง แต่รอบนี้จะขึ้นจริงหรือขึ้นหลอกต้องลองศึกษาดูนะครับ


          มุมมองของผมที่มีต่อหุ้นตัวนี้  ผมเองมองว่าธุรกิจนี้ไม่ใช่ธุรกิจที่สามารโตได้แบบก้าวกระโดดแต่เป็นธุรกิจที่ค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าครับ  แต่ก็มีข้อดีตรงที่ว่าตัวธุรกิจถึงแม้จะมีคู่แข่งแต่การที่ผู้แข่งขันเจ้าใหม่ จะเข้ามาแข่งขันด้วยเป็นไปได้ยากเพราะข้อจำกัดหลายอย่าง รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงและการลงทุนซื้อเรือใหม่ที่สูงพอสมควรครับ และในราคาปัจจบันในวันนี้ที่ 9.15 บาท/หุ้นนั้นก็ถือว่ายังต่ำกว่าราคา IPO ที่ 12 บาท/หุ้นอยู่  ซึ่งหากผู้ลงทุนคาดหวังว่าราคาหุ้นจะกระโดดไปที่ 15 -20 บาทภายใน 1-2 ปีเลยนั้น  อาจจะยากซักหน่อยครับแต่หากมองแบบลงทุนเพื่อหวังส่วนต่างของราคาและเงินปันผล  ผมมองว่าธุรกิจนี้ยังน่าใจอยู่ไม่น้อยครับ  ส่วนจะเข้าลงทุนหรือเกร็งกำไรที่ราคาไหนผู้ลงทุนควรศึกษาเพิ่มเติม  เพื่อหาราคาที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนอีกครั้งนะครับ

ไส้อ่อนหมา
เอกสารอ้างอิง
ข่าวบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี จํากัด (มหาชน) RP

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น