สถิติการเข้าดูหน้า Blog

วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

หนี้บัตรเครดิต แก้ไขได้


สาเหตุแห่งการเป็นหนี้

     คุณเป็นหนี้อยู่หรือเปล่าครับ อืม เช่น หนี้บัตรเครติต  บัตรเงินสด หนี้นอกระบบ หรือเล่นแชร์ไหม ผมมีหนี้อย่างที่ได้กล่าวมา 1 ในนั้น .........ทำอย่างไรได้ละครับ นี้สังคมทุนนิยม เคยมีคนบอกผมนะครับว่า
  " ชีวิตคนเราหากไม่มีหนี้ เราจะไม่มีของอะไรเลย" ผมเชื่อคำกล่าวนี้มาหลายปีครับ ผมเริ่มเก็บเงินโดยการเก็บยอดฮิตครับ เก็บเป็นของและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ พอนานวันเข้าของเหล่านี้เสื่อมสภาพก่อนที่เราจะผ่อนหมด และราคามันตกลงมากเมื่อเราผ่อนมันหมดแล้ว ผมเริ่มคิดได้ว่าของใช้พวกนี้ตอนเดือนร้อนผมขายไม่ได้หรือเอามาเปลี่ยนเป็นเงินได้ซักชิ้น ทั้งมือถือรุ่นใหม่ คอมพิวเตอร์ ทีวี ฯลฯ แต่ตอนนี้ผมไม่เชื่อแล้วเพราะมันทำให้ผมและเพื่อนๆหลายคนจมลงในวัฎจักรแห่งการเป็นหนี้ไม่สิ้นสุดเสียที


หรือ บางคนหนักกว่าหน่อย ภาระเต็มหลังเดือนไหนไม่พอกดบัตรมา แต่ตอนจ่าย จ่ายขั้นต่ำ
หรือ คุณกำลังผ่อนมือถือรุ่นล่าสุดอยู่พอผ่อนหมด มีรุ่นใหม่ออกมาอีก ค่าบริการรายเดือนอีกต่อ
หรือ ปัญหาที่บ้านโทรมาขอ ตัวคุณเองก็ไม่มีเงินเก็บ ทำไงได้ กดบัตรเงินสดมาชีวิตเราชั่งดราม่า
หรือ ทองกำลังลงเลยผ่อนทองๆ ไม่เสือมราคา (ค่ารูด 3% แล้วนั้นดีกว่าจริงหรอ)
หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าพังทำได้ดี คงต้องผ่อน ไม่มีทีวีชีวิตนี้จะอยู่ได้อย่างไง
หรือ ค่าเทอมลูก ลูกจะเปิดเทอมแล้ว
หรือ ผ่อนบ้าน หรือไม่ก็รถ

เยอะครับกับเหตุผลแห่งการเป็นหนี้

บทความนี้ผมของแบ่งเป็นการชำระหนี้ กับ การป้องกันหนี้แล้วกันนะครับ

1 การชำระหนี้

ขั้นตอนที่ 1 สำรวจหนี้ คุณต้องสำรวจตัวเองก่อนนะ กว่าคุณเป็นหนี้ระดับไหน ผมถึงจะช่วยคุณได้ คุณกำลังคิดใช่ไหม ว่าไอ้ที่แนะนำคุณอยู่นี้ มันเคยเป็นหนี้หรอ มันถึงกล้ามาแนะนำ งั้นผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมเคยเป็นหนี้ เมื่อปีที่แล้วมันมียอดหนี้รวมกันมากกว่า 120,000 บาท !!! รวมดอกและต้น แต่ตอนนี้เหลือเพียง 30,000 กว่าบาท (รวมต้นดอก) ภายในระยะเวลา 9 เดือน แต่ผมจ่ายมากว่าเดิมเดือนละ 1,000 บาท เองนะ สงสัยละสิครับ ว่าทำไมยอดมันลดไวละ มาดูระดับหนี้สินกัน

ระดับที่ 1 มีหนี้บัตรกดเงินสดและหนี้รวมๆกันประมาณ 2-3 ใบ แต่ยังผ่อนชำระตรงเวลา
ระดับที่ 2 มีหนี้บัตร 5 ใบขึ้นไป 
ระดับที่ 3 มีหนี้บัตรหลายใบและมีหนี้นอกระบบด้วย
ระดับที่ 4 มีหนี้บัตร ไม่ว่าจะกี่ใบแต่คุณชำระไม่ตรงเวลาแล้ว (ซองน้ำตาลเริ่มมาหาแล้ว)

ระดับที่ 1 มีหนี้บัตรกดเงินสดและหนี้รวมๆกันประมาณ 2-3 ใบ แต่ยังผ่อนชำระตรงเวลา อันนี้ผมขอเล่ากรณีของผมก่อน เพราะผมจัดอยู่ในระดับนี้ครับ ขอเล่าสาเหตุการเป็นหนี้ด้วยเผื่อเป็นแนวทางได้บ้าง ผมเริ่มจากมนุษญืเงินเดือนทั่วไปครับ กดมาใช้บ้าง แต่หนี้หนักสุดโดนเพื่อนโกงเงินไปอีกประมาณ 30,000 บาท จึงเริ่มปฎิบัตการ การเป็นหนี้ครับ สรุปมีหนี้ 60,000 บาทต้นอย่างเดียว เริ่มมาคำนวณดอกเบี้ยเมื่อจ่ายขึ้นต่ำ รวมต้นรวมดอก 120,000 บาท เมื่อรู้ดอกเบี้ยผมกรี๊ดออกมาสุดเสียงเลยครับ (ข้างห้องต้องคิดว่าผมเป็นตุ๊ดแน่ๆ) !!!ผมทำใจครับเริ่มใช้หนี้ ใช้ไปต้นแทบไม่ลดเลยครับ เหมือนจ่ายแค่ดอกอย่างเดียว จิตตกมากๆ เพราะหนี้ก้อนใหญ่  เครียดแล้วเสียดายเงินมากๆ ผมจึงเริ่มหาวิธีปลดหนี้ แต่หนี้แบบนี้ รายการปลดหนี้ไม่รับแน่ แล้วผมก็ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรด้วย จึงลองเข้าเว็บไซด์ของธนาคารดู พบว่าธนาคารเหล่านี้มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่น่าสนใจ คือ พวกสินเชื่อส่วนบุคคลครับ ต้องบอกก่อนนะครับว่า นี้ไม่ได้เป็นการโฆษนาธนาคารนี้เป็นการยกตัวอย่างเฉยๆ  

วิธีการปลดหนี้
      เราเริ่มเช็คก่อนว่าสินเชื่อส่วนบุคคลพวกนี้ธนาคารไหนบ้างคิดดอกเท่าไร ลองเทียบดอกเบี้ยดู ผมเริ่มจากโทรถามทุกธนาคารเลยว่ามีสินเชื่อส่วนบุคลไหม คิดดอกเบี้ยเท่าไร วงเงินเท่าไร อันนี้ขออธิบายก่อน ว่ามันมี 2 แบบ 

1.1 สินเชื่อส่วนบุคคล ตัวนี้จะต้องเช็คโปรโมชั่นให้ดีๆ โดยลักษณะการให้กู้ จะได้ 5 เท่าของเงินเดือนโดยดูจากหนี้ของเราด้วย เช่น อย่างผมมีหนี้หลังๆรวมๆแล้ว 50,000 บาท (ดอกไม่เกี่ยว รวมดอกด้วยเป็นแสน) ผมกู้ได้ 50,000 บาท เอาเงินตัวนี้ไปตัดบัตรทั้งหมด แล้วมาผ่อนกับเขาเลย โดยดอกเบี้ยเขาจะคิดรวมๆ มาให้เลย คือ 10,000 บาท รวมต้นดอก 60,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระคืน 2 ปี 24 งวด เพราะตอนผมกู้เขามีโปรโมชั่นคือ ปีแรกดอก 12% ปีที่ 2 ดอก 28% เอามาเฉลี่ยกันอย่างไรก็ถูกกว่าครับ แนะนำนิดนึ่งครับ ตรงนี้ดอกเบี้ยมันมาจากจำนวนปี มันได้ตั้งแต่ 1-7 ปีเลย ผมถามเขาอย่างละเอียด ว่าแต่ละแบบ 1-7 ปีนี้ผ่อนชำระเท่าไร กดเครื่องคิดเลขตาม คือเอาที่ต้องผ่อน สมมุติ 2550 x 24 งวด ดอก 10,000 บาท แต่แบบปีหลังๆส่ง 1,000 กว่าบาท แต่หักต้นเเล้วเยอะมาก ผมคิดว่าตัวเลขนี้พอผ่อนไหว เลยเอาที่ 2 ปี แล้วมันก็จริง ดอกหายไป 50,000 บาท ตอนนี้ผมเหลือต้นกับดอกแค่ 20,000 กว่าบาทซึ่งน้อยกว่าเมื่อก่อนเยอะมากๆ 


ตัวอย่าง  วันนี้ (14/10/56) ผมโทรไปถามธนาคาร CIMBThai ว่าเขามีโปรโมชั่นสินเชื่่อส่วนบุคลล ดอกอะไรเท่าไรบ้าง ดอกคือ 
                    เดือนที่ 1 = 8% 
                    เดือนที่ 2 = 9% 
                    เดือนที่ 3 = 10% 
                    เดือนต่อๆไป  25-26%
      โดยมีหลักเกณฑ์ ว่าจะต้อง เงินเดือน OT โบนัส รวมๆ กันแล้ว 15,000 บาท/เดือน (เมื่อก่อนธนาคารนี้เอาแค่ 10,000)  โดยเราสามารถไปคุยกับเขาได้เลยว่า ต้องการเงินที่ 50,000 บาท มีผ่อนกี่ปีบ้าง เดือนละเท่าไร แนะนำว่าไม่ให้เอาจำนวนปีที่มากเพราะมันดอกทบต้นเลยนะครับ แต่บ้างคนอ่านแล้วคิดเหมือนผมใช่ไหมว่าดอกเบี้ยพวกนี้แพงอยู่ดี แต่พวกนี้ลดต้นลดดอกนะครับ แล้วหนี้บัตรต่างๆของคุณ ร้อยละ 28% เชียวนะ ผมเห็น มีค่าดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน เงินต้น จ่ายจริงๆไปเยอะครับ แต่ต้นไม่ลด แต่อันนี้มีแค่ ดอกเบี้ยกับเงินต้นนะครับในใบเรียกชำระเงิน ซึ่งธนาคารอื่นๆก็คล้ายๆกัน

1.2 สินเชื่อส่วนบุคคล รีไฟแนนซ์  ต้องบอกก่อนนะครับว่าไม่ใช่การเอารถมา รีไฟแนนซ์  แต่คือการเอาบัตรเรามารีไฟแนนซ์  ต่างหาก สำหรับกรณีนี้ เขาจะให้เราเอาหนี้ไปให้เขาดู โดยมีเงื่อนไขว่า ยอดหนี้ต้องไม่เกิน 50% ของเงินเดือน (รวมผ่อนบ้าน รถแล้ว) และไม่เกิน 3 ใบ วงเงินก็ 5 เท่าของเงินเดือน ส่วนเงินเดือนของให้ 15,000 บาทขึ้นไป รวม OT โบนัส ด้วย 


ตัวอย่าง วันนี้ (14/10/56) ผมโทรไปถามธนาคาร TMB ว่าเขามีโปรโมชั่นสินเชื่่อรีไฟแนนซ์ ดอกอะไรเท่าไรบ้าง ดอกคือ 
                   ปีที่ 1 ดอก 10%
                   ปีต่อไป ดอก 24% (หากเงินเดือนมากกว่า 30,000 บาท ดอก 22%)
      โดยที่เขาจะให้เงินสดเรามาโดยดูจากดอกหนี้แล้วให้เราไปชำระเองนะครับ ไม่ได้โอนชำระให้เรา แต่ดอกเบี้ยถูกมาก คิดดูสิครับ บัตรต่างๆ ดอก 28% ค่าทำเนียมมากมาย แต่นี้ 10% น้อยกว่ากันมากกว่าครึ่ง หากคุณตรงตามเงื่อนไข ผมแนะนำอันนี้นะครับ เพราะมันถูกกว่าเยอะมาก 

สำหรับ ผู้ที่ตรงตามเงื่อนไขแรก คือ ระดับที่ 1 มีหนี้บัตรกดเงินสดและหนี้รวมๆกันประมาณ 2-3 ใบ แต่ยังผ่อนชำระตรงเวลา
  1. ควรถามหลายๆธนาคาร สิ่งที่ผมบอกไม่ใช่การชี้ทางว่าธนาคารไหนดี เพราะดอกเบี้ยมันแล้วแต่ช่วงเวลา แล้วแต่โปรโมชั่นของเดือนนั้นๆ
  2. ควรถามระยะเวลาจำนวนปีและการผ่อนชำระให้ดี เพราะดอกเบี้ยแตกต่างกันเยอะ
  3. เมื่อได้เงินมาแล้ว ควรเอาไปใช้หนี้ทันที อย่าเอาไปใช้ชื้อของส่วนเด็ดขาดไม่เช่นนั้นคุณจะกลับมาสู่วังวนการเป็นหนี้อีก ต้องมีวินัยในตนเองนะครับ

เดี๋ยวระยะอื่นๆ ผมขอมาต่อครั้งหน้านะครับ ขอบคุณครับ

เรื่องหนี้บัตรเครดิต แก้ไขได้ ตอนที่ 2 (10/11/56)

       หากอ่านมาได้ถึงตอนนี้แล้ว แสดงว่าว่าคุณมีหนี้มากกว่าที่ผมได้แจ้งไป คือมีหนี้หลายใบ จนถึงระดับ 5 ใบ ในระดับนี้ อาจจะมีทั้งยังจ่ายตรงเวลา และเริ่มที่จะไม่ตรงเวลาบ้างแล้ว

ระดับที่ 2 มีหนี้บัตร 5 ใบขึ้นไป
       การที่คุณมาถึงขั้นนี้ได้แสดงว่าคุณไม่ธรรมดา อันนี้ไม่ใช่การว่าหรือตำหนินะครับ แต่อยากให้คุณยอมรับความจริง ว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ขึ้นไหน ชีวิตคุณต้องเดินต่อไป ให้คิดถึงคนที่คุณรักมากๆ เช่น ครอบครัว

1.1 คุณต้องหยุดหมุนเงินโดยการกู้จากอีกที่มาใช้อีที่โดยเด็ดขาดก่อน เพราะคนโดยมากเมื่อเป็นหนี้ระดับหลายใบเพราะใช้วิธีนี้ ทำให้ หนี้งอกไม่รู้จักจบสิ้น อันดับแรกให้คุณหยุดการกระทำดังกล่าวก่อน

1.2 คุณควรเริ่มสรุปหนี้สิ้น รายได้ และการที่ต้องจ่ายเงินขั้นต่ำก่อน
เริ่มจากประมาณการรายรับของเราก่อนว่ามีเท่าไร ยกตัวอย่างเช่น เงินเดือนของคุณ 20,000 บาท


จากตารางนี้ คุณมีเงินพอที่จะสามารถชำระหนี้ได้เดือนละ 9,800 บาท จกานั้นเรามาดูหนี้สินกันบ้างครับ ว่าเรามีเท่าไร 

       จะพบว่าหากเราจ่ายขั้นต่ำทุกใบแล้วเรายังเหลือเงินอยู่ประมาณ 3,300 บาท ให้คุณนำเงินตรงนี้ซัก 2,000 บาท มาตัดตัวที่น้อยที่สุด จากตัวอย่างตัวที่น้อยที่สุดคือใบที่ 5 ยอด 5,000 บาท จะช่วยให้หมดเร็วขึ้นแล้วที่เหลืออีก 1,300 บาท ให้เก็ยสำรองไว้เพื่อป้องกัน หากมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินจะได้ไม่ต้องเพิ่งพาบัตรเหล่านี้อีก และการตัดยอดที่น้อยที่สุดก่อนจะทำให้เราเกิดกำลังใจในการใช้หนี้ เพราะมันจะหมดไปที่ละใบ ไม่ต้องมาปวดหัว เรื่องการถึงรอบการจ่ายบัตรเหล่านี้ ในกรณีนี้เราไม่ต้องกังวลถึงรอบจ่ายแล้วจะลืม เพราะ มันจะค่อยๆหมดไปทีละใบ และการจ่ายแบบนี้หลายคนผมคิดว่าคงมีความคิดที่แย้งในใจว่าทำไมเราไม่จ่ายใบที่มากว่า หรือใบที่เยอะที่สุด ผมต้องตอบในฐานนะ ผู้เคยทดลองมาแล้ว พบว่า หนี้เหล่านี้ คิดดอกเบี้ยใกล้เคียงกันมาก และยากเกินกว่าที่เราจะเข้าในในการคิด ค่าธรรมเนียมอื่นๆอีกมากมาย ฉะนั้น เราไม่คิดมากครับ เพราะหากมานั่งคำนวณว่าอันไหนดอกมาก ดอกน้อย คงไม่เป็นอันได้ใช้หนี้กันพอดีครับ

แต่หากคุณอยู่ในระดับหนี้
ระดับที่ 3 มีหนี้บัตรหลายใบและมีหนี้นอกระบบด้วย
ระดับที่ 4 มีหนี้บัตร ไม่ว่าจะกี่ใบแต่คุณชำระไม่ตรงเวลาแล้ว (ซองน้ำตาลเริ่มมาหาแล้ว)

       วิธีการของผม 2 วิธีแรกอาจจะใช้ไม่ได้แล้วครับ เพราะเราต้องถูกเร่งรัดด้วยการทวงหนี้ เท่าที่ผมหาข้อมูลมานะครับ ผมขอแนะนำ ชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล คลิ๊ก! ผมอยากให้เพื่อนๆค่อยๆอ่านกระทู้ในนี้ อ่านละเอียด เพราะแต่ละคนรูปแบบหนี้การติดตามทวงถามแตกต่างกัน หากไม่เข้าใจจึงสมัครสมาชิกแล้วจึงตั้งกระทู้หากหาคำตอบไม่ได้จริงๆ ผมคิดว่าเว็บไซด์ดังกล่าวช่วยหาแนวทางได้มาก แต่เว็บหนี้เขาไม่ได้สอนให้เบี้ยวหนี้นะครับ อย่าเข้าใจผิด เพียงแต่เขาจะและเพื่อนๆในนี้จะช่วยหาทางออกให้เราได้ครับ

       สุดท้ายนี้นะครับ การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย มันคือความผิดพลาดที่เราแก้ไขอดีตไม่ได้แต่แก้ไขปัจจุบันให้มันดีขึ้นได้ "การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสรฐิ" จริงๆครับ



น้องซิ่ง โลกสวย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น