สถิติการเข้าดูหน้า Blog

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คุณหมดเงินไปเท่าไร? กับ Case ใส่มือถือ

ซื้อ Case Samsung  มาใหม่
          ว่าแต่หมดเงินไปเท่าไรกันแน่ ผมว่าในชีวิตผมคงเป็นพันหรืออาจจะถึงหลายพันเพราะคนเราก็เคยมีมือถือกันหลายเครื่อง ผมเคยลองนับดูตอนใช้ Samsung galaxy note 1 ผมหมดเงินไปกับ Case มือถือตัวนี้ไม่ต่ำกว่า 2-3 พันบาท อาจเพราะใช้งานมันอยู่ประมาณ 2-3 ปี แต่เงินหลักนี้ก็ไม่ใช่เงินน้อยๆ เลย หากเอาเทียบกับเงินเดือนตัวผมเอง ในวันที่มือถือเครื่องนั้นพังแล้วผมต้องเอา Case ที่อยู่ในลิ้นชักในตู้ออกมาทิ้งนับ 10 อัน บางอันก็เก่าจนสีลอกออกมาเกือบหมด บางอันก็ยังใหม่กิ๊ก แต่ทำไงได้ครับ ก็มือถือมันพังไปแล้ว Case ราคาแพงขนาดไหนมันก็เป็นของใช้เฉพาะรุ่น อย่างไงมันก็ต้องทิ้ง เก็บไว้ก็คงไม่ได้ใช้งานอยู่ดีครับ


          จะว่าไปแล้วทุกวันนี้ Case มือถือ ดีกว่าเมื่อหลายปีก่อนมากๆ เพราะมีให้เลือกเกือบทุกรุ่นที่ออกขาย ไม่เหมือนเมื่อสมัยที่โทรศัพท์มือถือเริ่มนิยมในช่วงแรก สีสัน รูปทรง โดนใจดีครับ อยากได้แบบไหนก็เลือกซื้อกันไป เสียดายที่ผมเอาไปทิ้งหมดแล้ว เหลือไว้ไม่กี่อันไม่อย่างนั้นก็ได้กองเป็นตั้งๆ มาอวดแน่ๆ เลย วันนี้พอดีผมเพิ่งไปซื้อมาใหม่  ทำให้นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ว่าเราเคยสิ้นเปลืองขนาดไหนกับของเหล่านี้ ผมมีทั้ง Case ธรรมดา สติ๊กเกอร์แบบ 3M และ ก็ Case แบบแบตเตอร์รี่สำรอง เยอะแยะมากมายไปหมด เก่าหน่อยก็ซื้อแหละครับ วันนี้ลองมานั้งมองดูสิ่งที่ผ่านมาบางครั้งมันก็เปล่าประโยชน์ อย่างเช่น Case แบบเป็นแบตสำรอง ใช่ได้แค่เฉพาะรุ่น พอโทรศัพท์มือถือเราพัง มันก็เอาไปใช้กับรุ่นอื่นไม่ได้ ใครยืมเราก็ไม่ได้ ยกให้ใครก็ไม่ได้ ต่างจากพวก Power bank แบตสํารอง เปลี่ยนรุ่นมือถือไปก็ยังเอาไปใช้กับรุ่นที่เราซื้อมาใหม่ได้บ้าง แท็บเล็ตก็ยังพอได้ ราคาตอนนั้นที่ผมซื้ออันนึ่งก็เกือบพันแล้วครับ วันนี้เป็นคู่แข่งด้านที่ทับกระดาษกับ Samsung galaxy note 1  ที่พังไปแล้วได้เลย

Case บางอันก็กลายเป็นขยะไปซะแล้ว
          ในบางครั้งสิ่งที่เราคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อรวมๆ กันแล้วกับเป็นเรื่องใหญ่ เหมือนเงินเล็กๆ น้อยๆ แต่พอรวมกันแล้วก็กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้อยู่เหมือนกัน เราแทบไม่รู้เลยว่าเราหมดเงินไปเท่าไร แต่เมื่อเราได้เห็นขยะเหล่านี้อยู่ในลิ้นชักทุกครั้งที่เรารือหาสิ่งของ ก็อดทำให้เราใจหายไม่ได้จริงๆ ว่าเรื่องที่เราคิดว่าเล็กน้อยนั้น เป็นเงินเยอะมากๆ เมื่อเราลองได้กลับมาคิด

          2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ผมซื้อของเหล่านี้น้อยมากๆ อย่าง iPad เองตั้งแต่ใช้งานมาผมก็เคยซื้อแค่ 2 อัน ในการใช้งาน 2 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา เพราะราคาอันละ 5-6 ร้อย นั้นเบี้ยขยันของผมทั้งเดือนเลย แต่นี้ก็ลอกจนครบ 4 ด้านแล้ว คงต้องหากโอกาสซื้อใหม่ (เมื่อมีเงิน) ส่วนมือถือเครื่องใหม่ นี้เป็นอันที่ 2 ครับ เพราะอันแรกซื้อมา 80 บาท และผมคิดว่าเป็นเป็น  Case โทรศัพท์มือถือที่สีดำเริ่มกลายเป็นสีเหลืองได้ ฮ่าๆ  ถึงสภาพยังดีอยู่ก็เถอะครับ และผมก็ใช้เป็น Power bank แบตสํารองแทนที่จะเป็น  Case แบตเตอรี่สำรอง เพราะชาร์จแบตได้ทั้งโทรศัพท์มือถือและ iPad สมัยนี้ถูกกว่าด้วย เลือกให้เหมาะกับการใช้งานดีกว่าครับ

อันนี้ลอกเลย

            แต่ไม่ใช่ว่าแบบนี้เราก็ต้องประหยัดซื้อถูกๆ เลยดีกว่า อันนี้ก็ไม่ดีครับ ผมเคยมีเพื่อนคนหนึ่งซื้อโทรศัพท์มือถือมาราคา 2 หมื่นกว่าบาทเลย ออกใหม่ล่าสุด สีขาวโดดเด่นเห็นแต่ไกล ใช้ไปได้ 2 สัปดาห์แกะโทรศัพท์มือถือออกมาดูสีที่ Case ติดหลังโทรศัพท์มือถือมาเลย ล้างก็ไม่ออก ต้องผ่อนต่อไปทั้งน้ำตา แบบนี้ไม่ไหวนะครับ เอาแต่พอดีจะดีกว่าครับ
Case อันนี้สีตก

           หากมีเวลาลองคำนวณกันเล่นๆ ดูนะครับ  ว่าหมดเงินกับไอ้เจ้า Case โทรศัพท์มือถือ เครื่องล่าสุดนี้กี่บาทแล้ว บางทีอาจนึกสยองขึ้นมาแบบผมก็ได้ครับ และก็อดเสียดายเงินไม่ได้ที่เสียเงินไป







แมนๆ เตะบอล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น