สถิติการเข้าดูหน้า Blog

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เก็บเงินมาลดหย่อนภาษี

ปีที่แล้วซื้อ LTF ไว้ครับ 
          อีก 2 เดือนก็จะสิ้นปี 2558 แล้วครับ เรื่องภาษีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมกังวลอยู่ว่่าจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อกองทุนซื้อประกันชีวิตหรือหาทางลดหย่อนภาษีอื่นๆ  ไม่ใช่ว่าเพราะผมเงินเดือนเยอะแล้วเสียภาษีเยอะหรอกนะครับ  แต่เป็นเพราะว่าผมเองก็อดเสียดายไม่ได้  ที่ไม่ได้เงินที่เสียไปคืนต่างหากครับ ซึ่งโดยปกติแล้วผมเองก็ไม่ได้เสียภาษีเยอะมากครับ  เพราะผมเองก็เป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งครับ  ที่เงินเดือนไม่ได้มากมาย  คนโดยมากที่อยู่รอบตัวผมมักจะคิดว่าผมน่าจะเงินเดือนเยอะมากๆแน่  แน่นอนครับด้วยความเป็นวิศวกร  มันดูเหมือนเป็นอาชีพที่เงินเดือนเยอะ  ตอนผมเป็นเด็กผมก็คิดแบบนั้น  แต่เมื่อผมโตเป็นผู้ใหญ่  ผมเองก็ได้เรียนรู้ว่าในโลกใบนี้ไม่ใช่ว่าอาชีพดีๆ  จะกลายเป็นคนรวยได้เพราะแม้กระทั้งอาชีพหมอก็มีท้งหมอที่จนและหมอที่รวย และอาชีพวิศวกรก็เช่นกัน ย่อมมีทั้งคนรวยและคนจนในอาชีพนี้เช่นกันครับ


รวมกับที่ไม่ได้เอามาเรียงเพิ่งจะได้ 30 ใบ
           ผมเริ่มรู้จักเรื่อของภาษีเมื่อปีที่แล้วนี้เองครับ  เมื่อชีวิตการทำงานเริ่มก้าวเข้ามาสู่ปีที่ 6 แล้วพบว่าในสลิปเงินเดือนของผมมีช่องของจำนวนเงินที่หายไปจากการถูกหักภาษี  ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมีวันนี้น้ำตาจะไหลครับ แต่ที่น่าหนักใจกว่านั้นคือ  ผมจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ LTF ละ นั้นแหละครับคือปัญหา เพราะในส่วนของโบนัสผม  ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าโชคดีที่โบนัสออกในวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี ยังทันที่เราจะไปซื้อกองทุน LTF ได้ทัน แต่ปัญหาของผมก็คือ โบนัสของผมมันแค่ 0.75 เดือนเท่านั้นเอง หากคิดเป็นจำนวนเงินก็หมื่นกว่าบาทได้  ตรงนี้ผมก็ทราบครับว่าโบนัสผมน้อยครับ  ซึ่งผมเองก็ไม่ได้เสียภาษีเยอะมาก  เพราะเงินเดือนรวมโบนัสผมเมื่อคิดเป็นรายได้ต่อปีฐานเงินเดือนเสียภาษีเพิ่งจะ 5%-10% ได้ครับ  แต่ผมก็มีเงินเดือนส่วนที่เกินฐานภาษีนั้นเอง อย่างไรมันก็ต้องมีการเสียภาษีอยู่ดี  ตรงนี้ผมเข้าใจนะว่าหลายๆ คนก็เหมือนผมที่เราแทบจะไม่รู้จักคำว่าโบนัส 5-6 เดือน นั้นมันว่าเป็นอย่างไร แต่อย่างที่ผมบอกนะครับ ทุกอาชีพมีทั้งคนรวยและคนจนครับ เพราะองค์ประกอบในชีวิตคนเรามันต่างกันครับ  จึงทำให้ฐานะเราแตกต่างกันครับ  อย่างน้อยๆ แต่ละที่ก็มีฐานเงินเดือนในแต่ะตำแหน่งไม่เท่ากันโบนัสไม่เท่ากัน จึงทำให้เราแตกต่างกันในสิ่งแรกนั้นก็คือ รายได้นั้นเอง นี้ผมยังไม่นับ คนที่เงินเดือนเยอะก็จริงแต่มีภาระ พ่อ แม่ พี่ น้อง ที่ต้องส่งเสียเลี้ยงดู ไหนจะลูกเมีย ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ นะครับ


ซองสมุดบัญชีธนาคารเหลือ
เอามาใส่แบงค์ 50 ไว้ครับ 
          ในปีก่อนหน้าผมเอาเงินโบนัสนี้แหละครับไปซื้อ LTF มา 5,000 บาท ที่เหลือก็จ่ายหนี้ กยศ. ครับ สรุปว่าเงินโบนัส 10,000 กว่าบาทของผมจึงหมดไป และก็ได้เงินคืนภาษีมานิดหน่อย ที่ัยังดีกว่าไม่ได้คืนเลย แต่ปีนี้ผมจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อละ  ในปีที่เศรษฐกิจย่ำแย่และโบนัสจ่ายตามผลประกอบการ แค่คิดผมก็เดาได้ว่าน้อยกว่าปีที่แล้วแน่นอน แต่ในสลิปที่หักไปเสียภาษียอดเงินก็ไม่ได้น้อยกว่าปีที่แล้วเลย ผมจึงได้แต่นั่งๆ นอนๆ คิดในวันหยุดว่าจะทำอย่างไรดี จนคิดได้ถึงเรื่องหนึ่งในการเก็บเงินของผมเมื่อ 2 เดือนที่แล้วที่ผมได้แข่งกับพี่ที่ทำงานในการเก็บแบงค์ 50 กัน ซึ่งยังคิดไม่ออกว่าเมื่อเก็บแล้วจะเอาไปต่อยอดทำอะไรกันดี วันนี้เลยเริ่มพอมีแนวทางแล้วครับ



ปีนี้จะเป็นปีที่ 2 ที่ซื้อ LTF 


          ผมมักจะมีการคุยกันเสมอกับพี่ที่ทำงานว่า เราเก็บได้กันคนละกี่ใบแล้วในสัปดาห์นี้ วันไหนเจอหลายใบก็มีมาคุยกันเล่นๆ ดูมันสนุกว่าการเก็บคนเดียว  เก็บเเข่งกันมันก็สนุกไปอีกแบบ ในวันที่ผมเจอแบงค์ 50 บาท ผมก็จะเอามาแยกออกจากกระเป๋าสตางค์ โดยมันมาใส่กระเป๋าสะพานไว้ครับ แล้วก็ซองสมุดบัญชีธนาคารเล่มที่สมุดเต็มแล้วซองเหลือๆ ก็เอาซองนี้แหละครับมาใส่แบงค์ 50 บาทเอาไว้  ปีนี้ยอมรับครับว่าเริ่มช้าไปหน่อย แต่เวลาที่ยังพอมีเหลืออีก 2-3 เดือนนี้ คงพอทำให้ได้เงินพอสมควรในการเก็บเงินซื้อ LTF แบบไม่ต้องเดือดร้อน เพราะเวลาเอาเงินโบนัสไปซื้อผมนี้ใจหายเลยครับว่าเงินโบนัสออกไม่เคยได้ใช้ ปีนี้ได้เท่าไรคิดว่าจะซื้อแค่นั้นครับ เพราะมีประกันชีวิตไว้ลดหย่อนอยู่พอสมควร แต่ปีหน้าผมต้องเริ่มเก็บตั้งแต่ต้นปี รับรองไม่พลาดแน่นอนครับ หากปลายปีผมไปซื้อ LTF เมื่อไรจะมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งนะครับ 

แมนๆ เตะบอล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น