สถิติการเข้าดูหน้า Blog

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ ให้ราคาเหมาะกับเรา

         ต้องยอมรับครับว่าโทรศัพท์มือถือ ในยุคสมัยนี้เป็นอะไรที่เราหลีกเสี่ยงไม่ได้จริงๆ  ในบทความของผมก่อนหน้านี้ผมเองก็หมดเงินไปพอสมควรในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ครับ บางครั้งผมก็เคยคิดนะครับว่าการเลือกซื้อมือถือของผมเป็นแบบที่เขาเรียกว่า "เสียน้อยเสียมาก  เสียยากเสียง่าย" หรือเปล่า มือถือที่ผมซื้อมามันคุ้มค่าจริงๆแล้วหรือกับเงินที่ผมเสียไป ซึ่งก็อย่างที่คิดแล้วเฉลี่ยๆ มือถือที่เราซื้อเครื่องหนึ่งใช้ไปได้ 1-2 ปี คุ้มหรือเปล่า ลองคิดกันเล่นๆ นะครับ หากผมเริ่มมีมือถือเครื่องแรกตอนอายุ 18 ปีและเสียชีวิตซัก 60 ปี ก็ประมาณ 42 ปี เอาแค่ 60 ปีพอครับ อยู่นานขี้เกียจเก็บเงิน ผมซื้อมือถือเอาซักราคากลางๆ เครื่องละ 10,000 บาท ใช้คุ้มค่ามากๆ ซัก 1 เครื่องใช้ได้ 2.5 ปีเลย ดังนั้นก่อนผมจะตายผมต้องใช้เงินซื้อมือถือทั้งหมดก็ 168,000 บาท (โชคดีจริงๆ คิดว่า 60 ปีก็ตายแล้ว) 



          ก่อนเราจะดูว่าเราจะเลือกซื้อมือถืออย่างไร  ผมขอย้อนกลับไปยุคที่มือถือเริ่มเข้าสู่ยุคที่เริ่มเปลี่ยนแปลงซักประมาณปี พ.ศ.2548 ช่วงนั้นผมกำลังศึกษาอยู่ประมาณ ปวช.3 สมัยนั้นหากไม่มีใครโทรเข้าหรือส่งข้อความมา ประโยชน์หลักๆ ของมือถือคือที่ทับกระดาษแหละครับ เพราะมันมีคุณสมบัติหลักๆคือ โทรออก-รับสาย-ส่งข้อความ ในยุคสมัยนั้นมันมีแค่นั้นจริงๆ จนมาถึงวันนี้ปี พ.ศ. 2558 เกือบ 10 ปีที่ผ่านมา มือถือได้เพิ่มคุณสมบัติ มากมาย ทั้ง เล่นอินเตอร์เน็ตได้ สามารถดาว์โหลด Application ที่จำเป็นในชีวิตเราได้มากมายรวมทั้งแอพพลิเคชั่นโซเชียลเน็ทเวิร์คเช่น WeChat  facebook  line และอื่นๆได้อีกมากมายเลยครับ ซึ่งเราก็ใช้  Application เหล่านี้ในการติดต่อกับคนอื่นนอกจากนี้ยังปรับเพิ่มคุณสมบัติให้ถ่ายรูปได้จนกล้องดิจิตอลแบบคอมแพ็ค แทบจะหายสาปสูญไปเลยทีเดียวครับ ว่าแต่เราจะเลือกให้มันเหมาะกับการใช้งานของเราอย่างไรดี

          ก่อนอื่นเลยนะครับ ผมขอออกตัวก่อนว่าผมเคยซื้อใช้ตั้งแต่ Samsung Hero ราคา 700 กว่าบาท ถึงถึงรุ่นเรือธงอย่าง Samsung Galaxy Note ราคา 20,000 กว่าบาท ผมพบว่าบางรุ่นมันก็ขาดคุณสมัติจนใช้ทำอะไรแทบไม่ได้เลย และบางรุ่นก็เกินเหมือนซื้อมาเครื่องละ 20,000 บาทใช้งานแค่ 10,000 บาทเท่านั้นเองครับ และหากในยุคนี้ ผมพบว่าเราควรเลือกซื้อที่ราคาประมาณไม่เกินหมื่นเพราะเอาจริงๆแล้วผมถือว่ากำลังดีครับ ลองมาดูเหตุผลของผมกัน อันนี้เหตุผลส่วนตัวแต่ผมก็อยากขอแชร์ประสบการณ์นะครับ เพราะคิดว่าควรเหตุและผลมันน่าจะช่วยเพื่อนๆตัดสินใจ ในการเลือกซื้อมือถือเครื่องต่อไปได้บ้าง ไม่มากก็น้อยครับ 

  1. ราคาเครื่องละหมื่นตอนนี้ Spec มันเป็นของรุ่น Top ของปีที่แล้วเลยทีเดียว  อันนี้หากจะให้เห็นภาพชัดๆเลยคงไม่พ้นตระกูล Android หากเราลองพิจารณาดูดีๆนะครับ อย่างของพวกตระกูล S เช่น อย่างเห็นชัดๆ ก็ Samsung galaxy S ที่ถือว่าเป็นรุ่น Top Top ของปีที่แล้ว ตอนนี้ราคามือถือ ในตระกูล Samsung galaxy A ก็มี Spec ถือว่าใกล้เคียงกันแต่ราคาอยู่ที่หมื่นต้นๆ หรือไม่ถึงหมื่น อันนี้ของใช้คำว่าใกล้เคียงนะครับ บอกว่าเหมือนกันเลยคงไม่ใช่ 
  2. ราคาตก จนน่าตกใจ หากใครทันสมัยก่อนที่ Nokia ยังเป็นเจ้าตลาดบ้านเราได้ เมื่อเราใช้จนมันตกรุ่น เราก็สามารถนำไปขายต่อที่่ร้านตู้ได้ หรือเอามือถือไปเทิร์นได้ แต่ทุกวันนี้ การซื้อขายมือ 2 แทบจะไม่มีการซื้อขายกันแล้ว เพราะเครื่องมือ1 ราคาถูกกว่ามากทั้งแบบพร้อมโปรโมชั่น หรือผ่อน 0% ก็มี เครื่องละ 20,000 บาท ก็สามารถกลายไปเป็นที่ทับกระดาษจริงๆได้ครับ เพราะเราขายต่อใครไม่ได้ ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเคยซื้อมันมาแพงขนาดไหน ซักวันก็ที่ทับกระดาษนั้นเองครับ ที่สำคัญมือถือสมัยนี้ตกรุ่นไวมากๆ
  3. ความสามารถในการใช้งานไม่แตกต่างกันมาก เพราะราคามือถือเครื่องละหมื่นหรือเครื่องละสองหมื่นการทำงานด้าน Application พื้นฐานไม่แตกต่างกันมากครับ ไม่ว่าจะเป็นพวกโซเชียลเน็ทเวิร์ค หรือเกมส์ที่ชาวบ้านเขาเล่นกัน เช่น เกมเศรษฐี  Cookierun hayday ราคาประมาณนี้เล่นได้พอๆกันนะครับ ยกเว้นคุณไปซื้อเครื่องละ 2,000 กว่าบาท อันนั้นคุณก็จะทนกับมันไม่ไหวหากชอบอะไรแบบนี้ครับ เพราะกว่าจะเปิดโปรแกรม line ได้ก็แบบพักหน้าจอไป 2 รอบ หรือเล่นเกมส์ Cookierun ก็กระโดดกระตุกจนตายแล้วตายอีก เพราะมันไม่พอกับที่เราต้องการใช้ครับ ต้องถามตัวเองก่อน ว่าคุณใช้ Application ประมาณนี้ไหม หากเล่นประมาณนี้เครื่องละ 2,000-3,000 บาทผมขอไม่แนะนำ ยิ่งหากคุณติดต่องานโดยใช้พวกโซเชียลเน็ทเวิร์ค กว่าจะเปิด Application ได้แต่ละทีจะโมโหเปล่าๆครับ
  4. กล้องเทพ ปัจจุบันเอามีการอัพรูปภาพและถ่ายภาพกันมาก กล้องหลายล้านบ้างทีก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ครับ เพราะหากคุณใช้ คาเมร่า 360 แต่งรูปตัวเองซะเปลี่ยนจากตัวเองกลายเป็นคนอื่นบ่อยขนาดนี้ ความละเอียดกล้องหลายล้านคงไม่มีประโยชน์แน่ แต่หากคุณเป็นเป็นคนที่ต้องมีการถ่ายรูปเกี่ยวเนื่องกับงานบ้าง คุณสมบัติกล้องประมาณนี้ ก็ถือว่าอยู่ในระดับพอใช้ได้ครับ เพราะเราไม่ได้ต้องถ่ายระดับมืออาชีพครับ แต่อันนี้ก็ต้องบอกอีกว่าหากใช้แนวนี้เครื่องละ 2,000-3,000 บาทก็ดูจะเกินไปครับ ผมเคยมีประสบการณ์เอามือถือถูกๆถ่ายรูปงาน มีแต่คนสงสัยว่าผมเอามือถือถ่ายหรือเอาเครื่องคิดเลขถ่าย เพราะเมื่อเราต้องถ่ายงานที่ชิ้นเล็กหรืองานที่ละเอียดเครื่องที่ราคาถูกมากๆ มันก็ไม่ไหวครับ แต่ราคาประมาณ 10.000 บาทก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
  5. ประหยัด อันนี้ตรงสุดที่สุดครับ เพราะในชีวิตคุณต้องซื้อมันอีกหลายเครื่องครับ เงินทองเป็นของไม่แน่นอน หากมันไม่ได้ทำให้คุณถึงขนาดอดรนทนไม่ได้ การใช้รุ่นกลางๆแล้วมันตกรุ่นอีกซัก 1-2 ปี ก็สามารถเปลี่ยนใหม่ได้ แต่หากคุณเคยซื้อมือถือราคาเครื่องละ 20,000-30,000 แล้วมันหล่นหรือพังก่อนเวลาอันควรคุณจะเข้าใจว่าความเสียดายมันน้อยกว่ากันครับ ผมว่าประหยัดไว้ก็ดีเหมือนกันนะครับ ใช้ที่เราคิดว่าพอดีกับตัวเราจะดีกว่าครับ

ไส้อ่อนหมา



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น