สมัยที่ผมเริ่มทำงานช่วงปีแรกๆ เมื่อพนักงานธนาคารชวนทำประกันชีวิตผมจะกลัวมากครับ เพราะในอินเตอร์เน็ตมักมีกระทู้บอกว่าโดนพนักงานธนาคารต่างๆหลอกทำประกันชีวิตอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสมัยนี้ก็ยังมีกระทู้แนวนี้อยู่ครับ ผมว่านะครับหลายคนก็กลัวเหมือนผมว่า หากมีใครมาชวนทำประกันนี้ต้องมาหลอกเราแน่นอน แต่ผมว่าบางทีเราควรที่จะลองฟังดูก่อน แต่หากใครมาชวนผมขอแนะนำนะครับว่าให้ตั้งสติและลองฟังดูก่อนครับ เช่น หากเป็นพนักงานธนาคารมาชวนควรฟังครับและขอรายละเอียดมาเพื่อศึกษาก่อน อันนี้ต้องมีสติครับอย่างเพิ่งตกปากรับคำ ควรขอรายละเอียดกลับมาศึกษาดูก่อนครับ เพราะประกันชีวิตนั้นมีหลายแบบแถมส่งหลายปี ฉะนั้นควรตัดสินใจอย่างรอบครอบ แต่หากในกรณีที่มีใครชวนซื้อประกันทางโทรศัพท์ อันนี้ตอบยากมากๆว่าดีหรือเปล่า เพราะมีกระทู้ว่าโดนหลอกขายประกันทางโทรศัพท์เยอะยิ่งกว่าโดนพนักงานธนาคารหลอกขายประกันอีกครับ เพราะเราฟังเเล้วยังไม่เข้าในรายละเอียดและเงื่อนไขดีและรีบในการตัดสินใจไปครับ อันนี้หากยังไม่เข้าใจขอให้ปฎิเสธไปก่อนครับ แล้วมาถามตัวเองอีกครั้งว่าเราต้องการประกันชีวิตตัวที่เขาแนะนำไหมและขอรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนจะตัดสินใจครับ
มาถึงตรงนี้ ผมคิดว่าย่อหน้าแรกทุกคนที่ไม่เคยทราบเรื่องประเภทของประกันเลยคงเริ่มงงกันแล้วว่า ประกันชีวิตนี้มันมีกี่แบบกันแน่นี้ แต่ข้อดีของมันคือ จะทำให้เรารู้สึกสบายใจ หากเราเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไร เราก็จะต้องจ่ายค่ารักษาพยายบาลจำนวนมากกว่าที่เราคิด และเงินเก็บที่หามานานจะไม่หมดไปกับค่ารักษาพยาบาล เพราะก่อนที่เราจตัดสินใจทำประกันชีวิต เราก็ต้องมีความรู้เรื่องประกันชีวิตไว้เพื่อให้เราสามารถเลือกแบบที่ต้องการและเหมาะสมกับเราได้ และตรงตามวัตถุประสงค์ในความต้องการด้านประกันชีวิต งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ อันนี้ผมขอสรุปแบบง่ายๆ แตอาจยาวหน่อย ขอให้ลองศึกษากันดูครับ
ผมขอแบ่งเป็นประเภทหลักๆ 4 แบบนะครับ คือ
- แบบมีกำหนดระยะเวลา (Term Life)
- แบบตลอดชีพ (Whole Life)
- แบบสะสมทรัพย์ (Endowment)
- แบบได้ประจำ (Annuity)
1.แบบมีกำหนดระยะเวลา (Term Life) แบบนี้คือการทำประกันชีวิตแบบให้ความคุ้มครองแบบมีกำหนดระยะเวลา โดยแบบนี้จะกำหนดเลยครับว่าเป็นระยะเวลาเท่าไร เช่น 5 ปี 10 ปี 20 ปี แล้วแต่เราจะเลือกครับ คือ หากเราตายในระยะเวลาที่ทำประกันก็คือเราได้เงินนั้นเองครับ สมมุติว่าเลือกแบบ 20 ปี แล้วเราเกิดเสียชีวิตภายใน 20 ปี นั้น ผู้รับผลประโยชน์ก็จะได้เงินครับ ตรงนี้เหมือนกับลักษณะจ่ายเบี้ยทิ้งทุกปี ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ
ข้อดี
-มีความคุ้มครองสูง เพราะแบบนี้จะมีกำหนดระยะเวลาเราสามารถจ่ายน้อยแต่คุ้มครองได้มากครับ เพราะมันเป็นแบบเสียเปล่า ประกันชนิดนี้จึงเหมาะกับคนที่มีภาระสูง หากกลัวว่าวันหนึ่งเราอาจจะต้องเสียชีวิตไป คนข้างหลัง ลูก ภรรยา พ่อ แม่ ก็จะมีหลักประกันครับ ยกตัวอย่างเช่น เราจ่ายเบี้ยประกันเพียงเดือนละ 700 บาท ก็สามารถได้ความคุ้มครองสูงสุดมากถึง 1,000,0000 บาท ซึ่งหากเป็นแบบสะสมทรัพย์อาจได้ความคุ้มครองเพียง 500,000 บาท
ข้อเสีย
-หากเราไม่เสียชีวิตภายในระยะเวลาที่เราเลือกไว้ เราจะไม่ได้อะไรเลยครับ คือ แบบนี้ทั้งเราและบริษัทประกันต่างต้องเสี่ยงทั้งคู่ครับ เพราะเราเองก็เสี่ยงที่ต้องจ่ายประกันฟรี บริษัทประกันก็เสี่ยงที่เราจะเสียชีวิตเช่นกันครับ เพราะเงินเอาประกันค่อนข้างสูง
หากต้องการเลือกแบบนี้แนะนำว่าให้เลือกระยะเวลาที่ยาวไว้ก่อนครับ เราสามารถเจอประกันชนิดนี้ได้จากการโทรศัพท์มาขายหรือการซื้อบ้านและคอนโดก็มักจะเจอประกันชนิดนี้ได้ แต่นะครับแต่ เราต้องดูให้ดีๆครับ เพราะบางทีเขามีเงินชดเชยในกรณีที่เราพิการหรือทุพพลภาพด้วย และเงือนไขอื่นๆเช่น หากเสียชีวิตในปีแรกจะไม่ได้เงินเต็มจำนวน การเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์อาจได้เงินไม่เต็มตามความคุ้มครองสูงสุดหรือไม่ได้เลย ฉะนั้นต้องดูให้ดีๆครับ เพราะรายละเอียดมีเยอะครับ
ต่อกันตอนหน้านะครับ
น้องซิ่ง โลกสวย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น