หนังสือ 1 ล้านบาทแรกในชีวิต คุณก็ทำได้

1 ล้านบาทแรกในชีวิต คุณก็ทำได้ 

First Million in Your Life You Can Do It

       "เผยแนวคิดบอกวิธีเปลี่ยนชีวิตให้รวยได้ แม้ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง" นั้นคือ บนความแรกที่ผมได้เห็นหลังจากเปิดหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมาเอิญผมได้มีโอกาสได้ไปที่บิ๊กซีสาขาบางพลี และได้เจอหนังสือเล่มนี้ ที่แรกผ่านๆตาครับ เพราะหนังสือแบบนี้ ขึ้นต้นมาเก็บเงินอะไร 1 ล้านบาท โอ๊ยเยอะครับ โดยมาไม่ค่อยจะใช้ได้จริงซะด้วย ให้มาเก็บเงินแบบฝันหวานๆ ดอกเบี้ยทบต้น แค่ 5% จะบ้าหรอธนาคารไหนเข้าให้ดอกสูงขนาดนั้น ขนาดฝากประจำปลอดภาษียังไม่ได้เลย (ฝากประจำแบบปลอดภาษี คือการนำเงินเช่น 1,000 บาทฝากทุกเดือนจนครบกำหนด 24 เดือนโดยไม่ถอดเลยจะได้ดอกเบี้ยโดยไม่เสียภาษี 15% ของอัตราดอกเบี้ย ต่างจากฝากประจำทั่วๆไป) นั้นคือแว๊บแรกความคิดเลยนะที่เห็นหนังสือเล่มนี้ 

       หลังจากที่เปิดผ่านๆมาได้ซักหน่อย ข้างในมีรูปการ์ตูนซะด้วย ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ธรรมดาซะแล้ว แต่งมาจากชีวิตจริงเลย (มาแนวใหม่ คล้ายๆ ลาออกครั้งสุดท้าย) แต่ต่างตรงที่ว่าหนังสือเล่มนี้เขียนแบบตรงไปตรงมาอ่านง่าย คล้ายๆเล่าชีวิตของคนๆ นึงตั้งแต่เด็กยันโต เปิดๆดูซักพัก ผมตัดสินใจซื้อเลยครับ ราคา 185 บาท ใช้บัตรสมาชิกลดด้วย 5% จัดมากลับบ้านเจอกันหน่อยครับ

       ชื่อผู้แต่งคิอ คุณ ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ชื่ออาจไม่ค่อยคุ้นตาผู้ท่านครับ เพราะผมก็เพิ่งซื้อมาชื่อคนแต่งจะว่าไปก็เขิลเพราะผมลืม แต่ก็ซื้อมาแล้วลองดูซะหน่อย

ส่วนแรกๆ ก็เป็นพวกคำนิยมทั่วๆไป อันนี้ถือว่าแต่งได้ดี  ต่อมาก็สารบัญ ประกอบไปด้วย 

สารบัญ
บทนำ
บทที่ 1 ชีวิตเด็กจนๆ อย่างผม
บทที่ 2 มนุษย์เงินเดือนก็เริ่มรวยได้
บทที่ 3 เริ่มต้นการผจญภัยสู่เส้นทางทำเงิน
บทที่ 4 เรียนรู้หุ้น
บทที่ 5 เดิมพันชีวิต
บทที่ 6 เริ่มต้นใหม่
บทที่ 7 โอกาสในวิกฤติ
บทที่ 8 ดอกเบี้ยทบต้นเปลี่ยนคนจนให้กลายเป็นคนรวยได้
บทที่ 9 3 ตัวแปรแห่งความมั่งคั่ง
บทที่ 10 แผนการชีวิต
บทที่ 11 หนึ่งล้านบาทแรกในชีวิต
ภาคผนวก
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า

รายละเอียดทั่วไป  หนังสือเล่มนี้ใช้โทนสีออกเทา ตั้งแต่หน้าปก จนถึงสีของกระดาษด้านใน ก็ทำให้อ่านสบายตาไปอีกแบบ มีรูประกอบของผู้แต่งบอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาในชีวิตของผู้เขียนทำให้เข้าใจง่ายไปอีกแบบ การใช้ภาษาเข้าใจง่ายเหมือนการบอกเล่าเรื่องเล่าที่ผ่านมาในชีวิตจนถึงอนาคตว่าผู้เขียนวางแผนจะทำอะไรต่อไปในชีวิตข้างหน้า 

ในเนื้อหามีการสอดแทรกภาพการ์ตูนเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน

รายละเอียดเนื้อหา เนื่องจากผู้เขียนเน้นเรื่องบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิต ตั้งแต่เด็กความยากลำบากตั้งแต่เป็นเด้กที่มีความยากจน ผมมองว่าชีวิตผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ค่อนข้างลำบากตั้งแต่เด็ก แบบจะเรียกได้ว่าต่างอย่างมากกับคนทั่วไป แต่ด้วยความมานะทำให้เขียนจบด้านวิศวะ จนเริ่มทำงาน ชีวิตผู้แต่งลำบากแต่งรู้จักอดออม นับว่าเป็นคนน่านับถือให้การดำเนินชีวิต หนังสือเล่มนี้ให้คติสอนใจอะไรหลายๆ อย่าง ผมคิดว่าหากใครได้อ่านคงได้แรงบันดาลใจไม่มากก็น้อย ยกตัวอย่าง เงินเดือนเริ่มแรกของผู้แต่งเพียง 15,000 บาท แต่สามารถส่งเงินเเพื่อช่วยเหลือที่บ้านถึงเดือนละ 10,000 บาท เหลือใช้เองเพียงเดือนละ 5,000 บาทซึ่ง ผู้เขียน ใช้จริงๆแค่เดือนละประมาณ 3,000 บาท เเถมยังเหลือเก็บเดือนละ 2,000 บาท 

ซึ่งถือว่าน้อยมาก ผู้เขียน ได้นำเงินไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ ทั้งการออมทรัพย์ธรรมดา การฝากประจำ การซื้อพันธบัตรรัฐบาล กองทุนรวม และหุ้น โดยได้บอกทั้งข้อดีและข้อเสียผ่านมุงมองของต้นเองซึ่งนับว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ 

 " และสำหรับผมการได้เห็นเงินเก็บสะสม

ค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้นเป็นความสุขและ

ความภาคภูมิใจอย่างจึ่งในชีวิต"

แม้ว่าผู้เขียนจะประสบความล้มเหลวในชีวิตต่างๆมากมาย (รับรองครับว่าอ่านแล้วคาดไม่ถึงแน่ๆ) แต่ผู้เขียนก็สามารถกลับมายืนได้อีกครั้ง ผมว่านะครับหนังสือเล่มนี้คงให้กำลังใจผู้อ่านที่กำลังประสบเหตุการณ์แย่ๆ ในเรื่องเงิน ในชีวิตได้เป็นอย่างดี ครับ

ที่ผมประทับใจคือ ผู้เขียนมีความหวังเช่น เดียวกับหลายๆคน คืออยากจะมีอิสระภาะทางการเงิน และอยากนำเงินส่วนหนึ่งหากเป้าหมายในการเก็บเงินของเข้าสำเร็จมาตอบแทนกลับสังคม 

สำหรับเนื้อหาโดยละเอียดนั้นผมคงไม่ขอเล่าหมด เพราะไม่งั้นหนังสือเล่มนี้คงหมดสนุกแน่ๆ ส่วนภาพในหนังสือเล่มนี้ผมคงไม่ได้ลงให้ผู้อ่านได้ดูนะครับ เนื่องจากหนังสือมีลิขสิทธฺ์ แต่ผมหวังเป็นอย่างยิ่งเลยนะครับ ว่าหนังสือเล่มนี้คงได้เปลี่ยนชีวิตคนหลายๆคนที่ได้ลองอ่านนะครับ

 " คุณเองเป็นผู้เลือก จะเลือกลำบาก

ในวันนี้หรือลำบากในอนาคตยามชรา"

ขอบคุณผู้เขียน หนังสือเล่มนี้

คุณ ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา

รายการ Money Talk

น้องซิ่ง โลกสวย