สถิติการเข้าดูหน้า Blog

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประเภทของประกันชีวิต (ตอนที่ 1)

 สมัยที่ผมเริ่มทำงานช่วงปีแรกๆ เมื่อพนักงานธนาคารชวนทำประกันชีวิตผมจะกลัวมากครับ เพราะในอินเตอร์เน็ตมักมีกระทู้บอกว่าโดนพนักงานธนาคารต่างๆหลอกทำประกันชีวิตอยู่บ่อยครั้ง  ซึ่งสมัยนี้ก็ยังมีกระทู้แนวนี้อยู่ครับ  ผมว่านะครับหลายคนก็กลัวเหมือนผมว่า หากมีใครมาชวนทำประกันนี้ต้องมาหลอกเราแน่นอน แต่ผมว่าบางทีเราควรที่จะลองฟังดูก่อน แต่หากใครมาชวนผมขอแนะนำนะครับว่าให้ตั้งสติและลองฟังดูก่อนครับ เช่น  หากเป็นพนักงานธนาคารมาชวนควรฟังครับและขอรายละเอียดมาเพื่อศึกษาก่อน อันนี้ต้องมีสติครับอย่างเพิ่งตกปากรับคำ ควรขอรายละเอียดกลับมาศึกษาดูก่อนครับ เพราะประกันชีวิตนั้นมีหลายแบบแถมส่งหลายปี ฉะนั้นควรตัดสินใจอย่างรอบครอบ  แต่หากในกรณีที่มีใครชวนซื้อประกันทางโทรศัพท์  อันนี้ตอบยากมากๆว่าดีหรือเปล่า เพราะมีกระทู้ว่าโดนหลอกขายประกันทางโทรศัพท์เยอะยิ่งกว่าโดนพนักงานธนาคารหลอกขายประกันอีกครับ  เพราะเราฟังเเล้วยังไม่เข้าในรายละเอียดและเงื่อนไขดีและรีบในการตัดสินใจไปครับ อันนี้หากยังไม่เข้าใจขอให้ปฎิเสธไปก่อนครับ แล้วมาถามตัวเองอีกครั้งว่าเราต้องการประกันชีวิตตัวที่เขาแนะนำไหมและขอรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนจะตัดสินใจครับ
      
         มาถึงตรงนี้  ผมคิดว่าย่อหน้าแรกทุกคนที่ไม่เคยทราบเรื่องประเภทของประกันเลยคงเริ่มงงกันแล้วว่า  ประกันชีวิตนี้มันมีกี่แบบกันแน่นี้  แต่ข้อดีของมันคือ จะทำให้เรารู้สึกสบายใจ หากเราเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไร เราก็จะต้องจ่ายค่ารักษาพยายบาลจำนวนมากกว่าที่เราคิด และเงินเก็บที่หามานานจะไม่หมดไปกับค่ารักษาพยาบาล เพราะก่อนที่เราจตัดสินใจทำประกันชีวิต เราก็ต้องมีความรู้เรื่องประกันชีวิตไว้เพื่อให้เราสามารถเลือกแบบที่ต้องการและเหมาะสมกับเราได้  และตรงตามวัตถุประสงค์ในความต้องการด้านประกันชีวิต งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ อันนี้ผมขอสรุปแบบง่ายๆ แตอาจยาวหน่อย ขอให้ลองศึกษากันดูครับ

ผมขอแบ่งเป็นประเภทหลักๆ 4 แบบนะครับ คือ
  1. แบบมีกำหนดระยะเวลา (Term Life)
  2. แบบตลอดชีพ (Whole Life)
  3. แบบสะสมทรัพย์ (Endowment)
  4. แบบได้ประจำ (Annuity)
เราลองมาดูกันทีละแบบครับ เพื่อให้ทราบว่าแบบไหนกันที่เหมาะกับเรากันแน่

        1.แบบมีกำหนดระยะเวลา (Term Life)  แบบนี้คือการทำประกันชีวิตแบบให้ความคุ้มครองแบบมีกำหนดระยะเวลา โดยแบบนี้จะกำหนดเลยครับว่าเป็นระยะเวลาเท่าไร เช่น 5 ปี  10 ปี  20  ปี แล้วแต่เราจะเลือกครับ คือ หากเราตายในระยะเวลาที่ทำประกันก็คือเราได้เงินนั้นเองครับ สมมุติว่าเลือกแบบ 20 ปี แล้วเราเกิดเสียชีวิตภายใน 20 ปี นั้น ผู้รับผลประโยชน์ก็จะได้เงินครับ ตรงนี้เหมือนกับลักษณะจ่ายเบี้ยทิ้งทุกปี ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ 

ข้อดี 
-มีความคุ้มครองสูง เพราะแบบนี้จะมีกำหนดระยะเวลาเราสามารถจ่ายน้อยแต่คุ้มครองได้มากครับ เพราะมันเป็นแบบเสียเปล่า ประกันชนิดนี้จึงเหมาะกับคนที่มีภาระสูง หากกลัวว่าวันหนึ่งเราอาจจะต้องเสียชีวิตไป คนข้างหลัง ลูก ภรรยา พ่อ แม่ ก็จะมีหลักประกันครับ  ยกตัวอย่างเช่น เราจ่ายเบี้ยประกันเพียงเดือนละ 700 บาท ก็สามารถได้ความคุ้มครองสูงสุดมากถึง 1,000,0000 บาท ซึ่งหากเป็นแบบสะสมทรัพย์อาจได้ความคุ้มครองเพียง 500,000 บาท  

ข้อเสีย
-หากเราไม่เสียชีวิตภายในระยะเวลาที่เราเลือกไว้  เราจะไม่ได้อะไรเลยครับ  คือ แบบนี้ทั้งเราและบริษัทประกันต่างต้องเสี่ยงทั้งคู่ครับ เพราะเราเองก็เสี่ยงที่ต้องจ่ายประกันฟรี บริษัทประกันก็เสี่ยงที่เราจะเสียชีวิตเช่นกันครับ เพราะเงินเอาประกันค่อนข้างสูง 

     หากต้องการเลือกแบบนี้แนะนำว่าให้เลือกระยะเวลาที่ยาวไว้ก่อนครับ เราสามารถเจอประกันชนิดนี้ได้จากการโทรศัพท์มาขายหรือการซื้อบ้านและคอนโดก็มักจะเจอประกันชนิดนี้ได้ แต่นะครับแต่ เราต้องดูให้ดีๆครับ เพราะบางทีเขามีเงินชดเชยในกรณีที่เราพิการหรือทุพพลภาพด้วย และเงือนไขอื่นๆเช่น หากเสียชีวิตในปีแรกจะไม่ได้เงินเต็มจำนวน การเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์อาจได้เงินไม่เต็มตามความคุ้มครองสูงสุดหรือไม่ได้เลย ฉะนั้นต้องดูให้ดีๆครับ เพราะรายละเอียดมีเยอะครับ

ต่อกันตอนหน้านะครับ
น้องซิ่ง  โลกสวย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น