ก่อนอื่นคนที่ติดตามอ่านบล็อคของผมมาตลอตคงสงสัยว่าทำไม ผมถึงมีบทความเกี่ยวกับธนาคารกรุงศรีบ่อย อันนี้ขอออกตัวออกนะครับว่าเงินเดือนผ่านธนาคารนี้ครับ ความจริงผมเปิดบัญชีในเกือบทุกธนาคารครับแต่ผมติดปัญหาตรงที่ว่าผมไม่มีเงินถึงขนาดสามารถ review ผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ทุกธนาคารครับ อันไหนใช้บริการบ่อยก็ขอบอกเล่าประสบการณ์อันนั้นมากหน่อยดูจะตรงตัวที่สุดครับ สำหรับเรื่องนี้เริ่มมาจากทุกครั้งที่ผมเห็นสลิปการทำธุรกรรมทางการเงินของผม ในทุกครั้งมันจะมีอยู่ช่องหนึ่งครับที่สรุปคะแนน yellow point ในสลิปทุกครั้งที่ผมจ่ายค่าบริการต่างๆ ผ่านตู้ ATM ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ติดใจหรอกครับว่ามันคือคะแนนอะไร จนผมลองมาหากข้อมูลในอินเตอรเน็ตดู
อิสระภาพทางการเงิน คือ มีอิสระภาพในการเลือกที่จะทำ และเป็นในสิ่งที่ตัวเองต้องการ โดยไม่มี เงิน มาเป็นเครื่องพันธนาการความคิด และการตัดสินใจ ผมคิดว่าใครๆ ก็คงอยากมีอิสระภาพทางการเงินครับ แต่ก่อนอื่นต้องรู้จักหา รู้จักใช้ และรู้จักเก็บออมก่อน ผมคิดว่าคนเราจะประสบความเร็จในชีวิตได้นั้น ก็ควรประสบความสำเร็จทั้งหน้าที่การงาน ครอบครัว เพื่อน และการเงินครับ
สถิติการเข้าดูหน้า Blog
วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
เมื่อผมซื้อกองทุนรวม KF-HEALTHD (ตอนที่ 2)
หลังจากที่ผมได้ศึกษาตัวกองทุนรวม KF-HEALTHD มาเกือบเดือน ผมจึงตัดสินใจไปธนาคารกรุงศรีเพื่อไปซื้อกองทุนนี้ครับ ซึ่งวันนั้นผมหยุดตรงกับวันปกติพอดี โดยมากแล้วการซื้อกองทุนรวมจากธนาคารนั้นจะสามารถซื้อได้ในวันจันทร์-วันศุกร์เท่านั้นครับ แต่มีบางธนาคารที่ให้เราสามารถซื้อได้ในวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งเราควรสอบถามก่อนเพื่อที่เราจะได้ไม่ไปเสียเที่ยว สำหรับธนาคารที่สามารถซื้อในวันหยุดได้เท่าที่ทราบก็มีธนาคารไทยพาณิชย์กับธนาคารกรุงไทย ซึ่งจะได้ราคาในวันจันทร์ครับ แต่ของกรุงศรีผมซื้อวันธรรมดา โดยทั่วไปก็เหมือนกับการซื้อกองทุนของธนาคารอื่นๆ คือ ต้องทำแบบสอบถามประเมินความเสี่ยงและกรอกเอกสารเยอะมาก แต่ในการซื้อครั้งต่อไปเราสามารถซื้อกองทุนอื่นๆ ของธนาครกรุงศรีผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้เลย แล้วมาขอสมุดกองทุนในภายหลังได้ครับ
วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
เมื่อผมซื้อกองทุนรวม KF-HEALTHD (ตอนที่ 1)
โดยปกติแล้วผมก็ซื้อพวกกองทุนรวมพวกนี้อยู่แล้วครับ แต่วันหนึ่งผมลองไปลงทุนในหุ้นแทนเลยขายกองทุนในประเทศที่เคยซื้อออกไปซื้อหุ้น เมื่อผ่านการลงทุนมาได้ซักพักผมพบว่าหุ้นมันยากกว่าที่ผมคิดครับ ผมอาจพลาดก็ได้ แต่เป้าหมายผมยังคงเดิมครับ คือผมเเบ่งเงินออมพวกนี้ไปในการลงทุน ระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาวครับ แต่วันนี้ขอพูดถึงการออมระยะยาวครับ เพราะผมตั้งใจว่าจะซื้อเพื่อการลงทุนไว้เพื่อใช้ยามเกษียณ จึงลองกลับไปดูกองทุนอีกครั้งเพื่อลงทุนระยะยาวแบบถัวเฉลี่ย ผมจึงลองหากองทุนซักตัวที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาวและคิดว่าเหมาะกับตัว
วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
ผมอยากลาออก
ในที่ทำงานที่แรกของผม ผู้จัดการท่านหนึ่งเคยถามผมเพื่อที่จะปรับเลื่อนตำแหน่งหลังจากที่อยู่ในตำแหน่งรักษาการหัวหน้าส่วนฝ่ายผลิตในโรงงานแห่งหนึ่งมานานแสนนานว่า "คุณคิดว่า คุณทำงานเพื่ออะไร" ตอนนั้นผมรวบรวมสติคิดอย่างถี่ถ้วนและตอบออกไปว่า "ผมทำงานเพื่อเงินครับ เพราะตราบใดที่เรายังต้องทานข้าว แน่นอนครับคนเราต้องการเงิน หากถามผมในคำถามที่ว่าทำงานเพื่ออะไร" เชื่อไหมครับผมโดนให้รักษาการหัวหน้าส่วนต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะลักษณะรูปแบบความคิดผมไม่ผ่าน ตอนนั้นผมรู้สึกสับสนว่าผมตอบผิดตรงไหน ผมจึงได้แต่ปรึกษาผู้จัดการท่านอื่นที่สนิทกัน ผู้จัดการท่านนั้นหัวเราะแล้วบอกว่าผมตอบไม่ผิดหรอก คนที่ถามผมเขาก็ต้องการเงิน มีใครมาทำงานฟรีเพราะใจรักบ้างละ ที่ผมตอบนั้นคือความจริง แต่นั้นไม่ใช่คำตอบที่เขาอยากได้ยิน
วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
เก็บสลิป ATM อย่างไร?....หากหมึกจางไว
เคยเจอปัญหาไหมครับว่าสลิป ATM ที่เราทำรายการแล้วได้มานั้น หมึกมักจะหายไปอย่างรวดเร็ว ผมก็เป็นคนหนึ่งครับ ที่ในหลายครั้งเราก็อยากจะเก็บไว้เป็นหลักฐานในการโอนเงินหรือฝากเงินของเรา เพราะบางครั้งการซื้อขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต เราก็อยากเก็บไว้เป็นหลักฐาน แต่หมึกสลิปพวกนี้มักจะหายไปภายในไม่กี่วัน โดยเฉพาะหากคุณเก็บมันไว้ในกระเป๋าสตางค์ เท่าที่ผมหาข้อมูลมามีคนแนะนำเรื่องนี้เยอะแยะครับ เช่น แช่ตู้เย็นไว้ (อันนี้ตอนจะใช้แล้วอยู่ข้างนอกบ้านจะทำอย่างไร) ถ่ายเอกสาร (สิ้นเปลืองไปหน่อยหากถ่ายเองแต่หากไปถ่ายที่ทำงานนี้โดนด่าแน่นอนครับ) หรือไม่ก็ ถ่ายรูปไว้ในมือถือ (อันนี้ลำบากตอนหาในแกลลอรี่ครับเพราะมันปนกับรูปถ่ายอื่นๆ) เก็บไว้ในถุงพลาสติก (ผมต้องพกถุงพลสติกไปไหนมาไหนตลอดเลยหรอเนี้ย ไม่ไหวๆ) สุดท้ายทุกวันนี้ก็ไม่ได้คำตอบที่จะเก็บรักษาสลิปพวกนี้ไว้เลย เพราะผมก็อยากให้พกสะดวกและง่ายตอนใช้งานและค้นหาครับ จนผมได้ทดลอง Google Drive ครับ เอาละครับมาลองดูกันดีกว่า ว่ามันดีจริงไหม
ประเภทของประกันชีวิต (ตอนที่ 4)
4. แบบมีเงินได้ประจำ (Annuity) เป็นแบบประกันที่มีมูลค่าเงินสดครับ โดยจะมีการเก็บเบี้ยประกันมาเป็นระยะค่อย ๆ สะสม เพื่อเพิ่มพูนมูลค่าเงินสดไปเรื่อย ๆ พอได้เงินก้อนใหญ่แล้ว บริษัทจะทยอยจ่ายคืนลูกค้าเป็นงวด ๆ ครับ เช่น จ่ายคืนเป็นรายเดือน รายปี หรือราย 3 ปีเป็นต้น เงินที่บริษัทคืน เรียกว่า เงินได้ประจำ (Annuity) เสมือนหนึ่งที่เราเก็บเงินสะสมมาเป็นบำนาญให้แก่ตัวเอง เมื่อเกษียณอายุการคำนวณเบี้ยประกันแบบเงินได้ประจำ ไม่เหมือนกับการคิดเบี้ยประกันของการประกันชีวิตบริษัทจะต้องใช้อีกอัตราสำหรับแบบประกันแบบนี้โดยเฉพาะ โดยพิจารณาทั้งอายุและเพศมาคานวณเพราะเพศหญิงอายุยืนกว่าเพศชาย จึงมีโอกาสรับเงินบานาญนานกว่าเพศชาย
ประเภทของประกันชีวิต (ตอนที่ 3)
3. แบบสะสมทรัพย์ (Endowment) คงพอทราบรายละเอียดของประกันชีวิตใน 2 แบบแรกกันไปแล้ว ก็คือ แบบมีกำหนดระยะเวลาแล้วก็แบบตลอดชีพ ซึ่งในตอนที่ 3 นี้ผมจะขอแนะนำประกันชีวิตอีกแบบนั้นก็คือ แบบสะสมทรัพย์ (Endowment) ซึ่งการประกันชีวิตเราต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ใช่การลงทุน เเต่เป็นการประกันความเสี่ยงนะครับ เพราะผลตอบแทนที่ได้รับในรูปแบบของเงินที่เราจะได้เมื่อครบกำหนด มันถือว่าน้อย จึงเป็นในลักษณะเหมือนการออมซะมากกว่า และในแบบสะสมทรัพย์จะมีความใกล้เคียงกับการฝากเงิน แต่ต่างกันที่ระยะเวลา ผลตอบแทน และความคุ้มครองนั้นเอง
ประเภทของประกันชีวิต (ตอนที่ 2)
2.แบบตลอดชีพ (Whole Life) สำหรับรูปแบบนี้เป็นประกันแบบที่ให้ความคุ้มครองตลอดชีพ คือ เป็นลักษณะของการประกันแบบสะสมทรัพย์ครบอายุ 100 ปี (ปัจจุบันบางบริษัทใช้อายุครบ 80 ปี หรือ 90 ปี เป็นเกณฑ์การออกแบบตลอดชีพ) ถ้าอายุถึง 100 ปี ก็รับทุนประกันคืน การประกันแบบตลอดชีพถือเป็นการสร้างมรดกเงินสดให้แก่ทายาท หรือในกรณีนักธุรกิจ ที่มีหนี้สินกับสถาบันการเงิน ถ้าผู้บริหารเสียชีวิต ในขณะที่ธุรกิจยังมีหนี้กับธนาคาร หรือสถาบันการเงินก็จะมีเงินใช้หนี้แทนได้ การประกันแบบตลอดชีพ มีระยะเวลาชาระเบี้ยประกัน เช่น 10 ปี, 20 ปี หรือชาระครบอายุ 50, 55, 60 ปี หรือชาระตลอดสัญญา
ประเภทของประกันชีวิต (ตอนที่ 1)
สมัยที่ผมเริ่มทำงานช่วงปีแรกๆ เมื่อพนักงานธนาคารชวนทำประกันชีวิตผมจะกลัวมากครับ เพราะในอินเตอร์เน็ตมักมีกระทู้บอกว่าโดนพนักงานธนาคารต่างๆหลอกทำประกันชีวิตอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสมัยนี้ก็ยังมีกระทู้แนวนี้อยู่ครับ ผมว่านะครับหลายคนก็กลัวเหมือนผมว่า หากมีใครมาชวนทำประกันนี้ต้องมาหลอกเราแน่นอน แต่ผมว่าบางทีเราควรที่จะลองฟังดูก่อน แต่หากใครมาชวนผมขอแนะนำนะครับว่าให้ตั้งสติและลองฟังดูก่อนครับ เช่น หากเป็นพนักงานธนาคารมาชวนควรฟังครับและขอรายละเอียดมาเพื่อศึกษาก่อน อันนี้ต้องมีสติครับอย่างเพิ่งตกปากรับคำ ควรขอรายละเอียดกลับมาศึกษาดูก่อนครับ เพราะประกันชีวิตนั้นมีหลายแบบแถมส่งหลายปี ฉะนั้นควรตัดสินใจอย่างรอบครอบ แต่หากในกรณีที่มีใครชวนซื้อประกันทางโทรศัพท์ อันนี้ตอบยากมากๆว่าดีหรือเปล่า เพราะมีกระทู้ว่าโดนหลอกขายประกันทางโทรศัพท์เยอะยิ่งกว่าโดนพนักงานธนาคารหลอกขายประกันอีกครับ เพราะเราฟังเเล้วยังไม่เข้าในรายละเอียดและเงื่อนไขดีและรีบในการตัดสินใจไปครับ อันนี้หากยังไม่เข้าใจขอให้ปฎิเสธไปก่อนครับ แล้วมาถามตัวเองอีกครั้งว่าเราต้องการประกันชีวิตตัวที่เขาแนะนำไหมและขอรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนจะตัดสินใจครับ
วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
เลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ ให้ราคาเหมาะกับเรา
ต้องยอมรับครับว่าโทรศัพท์มือถือ ในยุคสมัยนี้เป็นอะไรที่เราหลีกเสี่ยงไม่ได้จริงๆ ในบทความของผมก่อนหน้านี้ผมเองก็หมดเงินไปพอสมควรในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ครับ บางครั้งผมก็เคยคิดนะครับว่าการเลือกซื้อมือถือของผมเป็นแบบที่เขาเรียกว่า "เสียน้อยเสียมาก เสียยากเสียง่าย" หรือเปล่า มือถือที่ผมซื้อมามันคุ้มค่าจริงๆแล้วหรือกับเงินที่ผมเสียไป ซึ่งก็อย่างที่คิดแล้วเฉลี่ยๆ มือถือที่เราซื้อเครื่องหนึ่งใช้ไปได้ 1-2 ปี คุ้มหรือเปล่า ลองคิดกันเล่นๆ นะครับ หากผมเริ่มมีมือถือเครื่องแรกตอนอายุ 18 ปีและเสียชีวิตซัก 60 ปี ก็ประมาณ 42 ปี เอาแค่ 60 ปีพอครับ อยู่นานขี้เกียจเก็บเงิน ผมซื้อมือถือเอาซักราคากลางๆ เครื่องละ 10,000 บาท ใช้คุ้มค่ามากๆ ซัก 1 เครื่องใช้ได้ 2.5 ปีเลย ดังนั้นก่อนผมจะตายผมต้องใช้เงินซื้อมือถือทั้งหมดก็ 168,000 บาท (โชคดีจริงๆ คิดว่า 60 ปีก็ตายแล้ว)
วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
เดี๋ยวก็แก่....เกินไปกว่าที่จะเที่ยว
ผมเคยคิดนะครับว่า หากเก็บเงินได้เยอะๆ แล้วค่อยไปเที่ยวตอนแก่ดีกว่า เพราะการเที่ยวสำหรับผมถือว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลืองครับ เป็นเหตุและผลส่วนตัวที่ผมเคยคิด ว่าการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่หมดเงินเยอะมากๆ และเมื่อเที่ยวเสร็จความสนุกก็คงหมดไปพร้อมๆกับเงินที่หามาได้อย่างยากสำบาก มันคุ้มค่าจริงๆหรือกับการไปเที่ยว เวลาว่างในวันหยุดของผมจึงหมดไปกับการนอนดูหนังออนไลท์ที่ห้อง แต่มีคำถามในใจว่าทำไมคนอื่นๆถึงไปเที่ยวกัน น่าเสียดายที่พวกเขาน่าจะเริ่มเก็บเงินก่อน ช่วงเวลาที่ผ่านมาหลายปีผมจึงแทบไม่เคยไปเที่ยวอย่างจริงจัง กับเพื่อนร่วมงานเลย เพราะผมมักจะเก็บเงินอย่างเดียว ทั้งในกองทุนรวม ในหุ้น ซึ่งสภาพคล่องต่ำ การขายสิ่งพวกนี้เพื่อไปเที่ยวจึงดูเป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถทำได้เพราะความเสียดาย และในเมื่อทุกครั้งที่เพื่อนร่วมงานชวนไปเที่ยวไหน ผมก็ต้องปฏิเสธไปทุกครั้งเพราะความเสียดายเงินที่หามาได้ และการออมของผมทำให้ผมเก็บเงินสดไว้เพียงพอแค่การกินใช้ในแต่ละวันเท่านั้น
วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
สินค้าป้ายเหลือง
ในยุคสมัยปัจจุบันเราสามารถพบเจอสินค้าป้ายเหลืองที่เป็นอาหารในเวลาจวนเจียนช่วงเวลาประมาณ 19.00-22.00 น.ก่อนที่ห้างสรรพสินค้าจะปิด ซึ่งทุกวันนี้ตามร้านสะดวกซื้อก็มีการติดป้ายเหลืองในอาหารและสินค้าอุปโภคที่ใกล้หมดอายุแล้วเช่นกัน ถือว่าเป็นนาทีทองของการซื้อเลยทีเดียวครับ สินค้าป้ายเหลืองนั้นต้องยอมรับว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ เราลองมาแบ่งๆประเภทกันดูดีกว่าครับว่าสินค้าป้ายเหลืองเนี้ยมันมีประเภทไหนบ้าง อันนี้ของแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆนะครับ สามารถแบ่งได้ดังนี้ครับ
วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
"ลาเต้เอฟเฟคท์" Late Effect
นานมาแล้วครับผมได้อ่านหนังสือเล่มแรกๆเกี่ยวกับพวกการออม ชื่อหนังสือก็จะประมาณเก็บเงินล้านแรกๆ นี้เขาทำกันอย่างไร ในช่วงต้นของหนังสือมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ Late Effect บอกเล่าเรื่องราวของเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เงินเดือนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ถือว่าน้อย แต่สิ่งที่เพื่อนร่วมงานของผู้แต่งขาดไม่ได้เลยคือ การดื่มการแฟดีๆเย็นๆซักแถ้วนึ่งทุกวัน ซึ่งแน่นอนเพื่อนร่วมงานของผู้แต่งก็มักจะบ่นให้ฟังเสมอว่าเงินเดือนไม่ค่อยจะพอใช้ สาเหตุนั้นของปัญหานี้หาง่ายมากๆ เลยครับเพราะกาแฟที่ดื่มทุกวันนั้นเอง สำหรับเเนื้อหาคราวๆก็จะประมาณว่ากาแฟแถ้วดังกล่าวถูกจ่ายด้วยราคาที่แพงแสนแพงนั้นเอง ใจความสรุปสั้นๆว่า...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)